มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี และศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ. ภาคใต้ จัดโครงการ Open House ปี 2565 ตอน “สัตว์ดึกดำบรรพ์ลึกลับจากยุคไทรแอสซิก ที่ถูกค้นพบจากจังหวัดพัทลุง สู่การตีความครั้งใหม่” เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องสัตว์ดึกดำบรรพ์ลึกลับจากยุคไทรแอสซิกให้แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป สนับสนุนให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็นสะท้อนแง่มุมของตนเองต่อการเรียนรู้ธรรมชาติวิทยา ตลอดจนเปิดโอกาสให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และสนุกเพลิดเพลินจากการร่วมกิจกรรม ในวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ณ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ภายในงานมีการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ความลับแห่งท้องทะเลโบราณของพัทลุง และ Ichthyosaur ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก” โดยมีผู้เชี่ยวชาญอย่าง ดร.กิตติชัย ทองเติม อาจาร์วิจัยประจำพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นวิทยากร ในการให้ความรู้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2534 คณะนักวิจัยด้านสัตว์มีกระดูกสันหลังจากประเทศฝรั่งเศสและคณะนักวิจัยชาวไทย จากกรมทรัพยากรธรณี ได้เข้าร่วมตรวจสอบซากดึกดำบรรพ์สัตว์เลื้อยคลานในทะเลโบราณ (Ichthyopterygia) ที่พบบริเวณหลังวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้สร้างแรงกระเพื่อมให้แก่โลกของนักบรรพชีวินด้านสัตว์เลื้อยคลานในทะเลในกลุ่ม Ichthyopterygia เพราะมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกใบนี้ที่มีรายงานพบซากของโครงกระดูกของพวกมันในช่วงต้นยุคไทรแอสซิก ในครั้งนั้นทีมวิจัยคณะดังกล่าวได้ตั้งชื่อให้เป็นชนิดใหม่ทางวิทยาศาสตร์ว่า Thaisaurus chonglakmanii Mazin et al., 1991 โดยอายุที่แน่นอนของสัตว์เลื้อยคลานในทะเลโบราณยังคงเป็นปริศนา เพราะยังขาดข้อมูลซากดึกดำบรรพ์ดรรชนีที่จะใช้ช่วยบอกอายุ แต่ในเวลาต่อมา ดร. กิตติชัย ทองเติม ได้ไขความกระจ่างของอายุ Thaisaurus chonglakmanii Mazin et al., 1991 ด้วยการใช้แอมโมนอยด์บอกอายุ และทำให้ทราบว่าสัตว์เลื้อยคลานในทะเลโบราณที่พบบริเวณหลังวัดภูเขาทองนั้นเป็น Ichthyopterygi เก่าแก่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการชั่วคราวให้ผู้เข้าร่วมได้เห็นตัวอย่าง “ฟอสซิล” ที่มีความสำคัญกับการศึกษาซากดึกดำบรรพ์สัตว์เลื้อยคลานในทะเลโบราณ (Ichthyopterygia) ที่พบบริเวณหลังวัดภูเขาทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เยี่ยมชมและเรียนรู้นิทรรศการใหม่ๆ ที่ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ปรับปรุง ในช่วงที่ผ่านมา มีการบรรยายนิทรรศการโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ฯ รวมถึงกิจกรรม Interactive ที่ให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมเล่นเกมและเรียนรู้นิทรรศการ ทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษสอนวาดภาพการ์ตูนอะนิเมะ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการวาดภาพ โดยเยาวชนและบุคคลทั่วไปจะได้เข้าถึงข้อมูล องค์ความรู้ ประสบการณ์ และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในรูปแบบที่แปลกใหม่ สนุกสนาน ซึ่งจะก่อให้เกิดทัศนคติเชิงบวกแก่ธรรมชาติวิทยามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี เปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการทางธรรมชาติวิทยาในรูปแบบนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียน 6 บริเวณหลักๆ ได้แก่ 1. พื้นที่นอกอาคาร จัดแสดงลักษณะของพืชพรรณ และระบบนิเวศ 2. โถงอาคาร พื้นที่รวมพลเพื่อแนะนำและอธิบายเกี่ยวกับภาพรวมของพิพิธภัณฑ์ฯ ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวนิทรรศการหลัก 3. พื้นที่ชั้นที่ 1 จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับต้นกำเนิดของธรรมชาติ ตั้งแต่การก่อเกิดจักรวาล ไปจนถึงการกำเนิดสิ่งมีชีวิตและวิวัฒนาการ 4. ชั้นลอย (นิทรรศการหมุนเวียน) ในปีนี้มาในหัวข้อ เรืองมหัศจรรย์ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเพื่อให้สาธารณชนได้ความรู้ที่หลากหลาย และทันสมัย 5. ชั้นที่ 2 ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ที่อธิบายเกี่ยวกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และ 6. ชั้นที่ 3 ระบบนิเวศ เป็นการจำลองระบบนิเวศแบบต่างๆ และในปีนี้ทางพิพิธภัณฑ์ฯได้เพิ่มนิทรรศการในรูปแบบ Interactive Exhibition เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สนุกและเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ เช่น ระบบ Kinect-Air touch (โซนชั้น 1 Tree of life) ระบบ Virtual Aqaurium (โซน Kids Space) ระบบ Interactive Floor (โซนชั้น 3)
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา ๕๐ พรรษา สยามบรมราชกุมารี เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-เสาร์ เวลา 9.00-16.00 น. (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยสามารถจองเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ https://nhm.psu.ac.th/booking
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ : 0-7428-8067-8
Facebook Page : https://www.facebook.com/psunhm/
เว็บไซต์ : http://www.nhm.psu.ac.th/
อีเมล : psu.museum@gmail.com