5 เรื่องต้องรู้ ก่อนลงทุนซื้อหุ้นกู้
1.หุ้นกู้ คืออะไร
- ผู้ซื้อหุ้นมีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” และบริษัทผู้ออกหุ้นกู้สถานะ เป็น “ลูกหนี้” โดยที่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้นั้นให้สัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันตลอดช่วงอายุของหุ้นกู้ และจะชำระเงินต้นคืน ณ วันครบกำหนดอายุของหุ้นกู้
2. หุ้นกู้มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำหรือวงเงินสูงๆ หรือไม่
- หากเป็นเมื่อก่อนมีการกำหนดขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งแสนบาท ส่วนใหญ่นักลงทุน คือ นักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนสถาบัน ปัจจุบัน ผู้ซื้อรายย่อยเข้าถึงการลงทุนมากขึ้น มีเงิน 1,000 บาทก็จองซื้อหุ้นกู้ ผ่านแอปพิเคชั่นเป๋าตังค์ได้แล้ว
3. การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้
สิ่งที่ผู้ซื้อต้องตรวจสอบและศึกษา ก่อนการซื้อหุ้นกู้ คือ การจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่เรียกว่า “Credit Rating” บริษัทที่ออกหุ้นกู้ ความน่าเชื่อถือนี้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ
- Investment Grade ที่มีเรทติ้งสูงสุดคือ AAA ไล่ลงมาที่ AA+ AA AA- A+ A A- BBB+ BBB จนถึง BBB- จัดเป็นกลุ่มน่าลงทุนเพราะมีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง
- Speculative Grade เป็นที่มีเรทติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา โดยเรียงจาก BB+ BB BB- B+ B B- CCC+ CCC CC C และต่ำสุดคือ D รวมถึงที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิต โดยกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มแรก
ผู้ลงทุนควรซื้อหุ้นกู้ในบริษัทกลุ่ม Investment Grade
4. หุ้นกู้มีความเสี่ยงหรือไม่
หุ้นกู้มีความเสี่ยงไม่สูงมาก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนลงทุน คือ Credit Rating และ ผลประกอบการดำเนินงาน บริษัทที่ออกหุ้นกู้ ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้นกู้เกรด AAA- ถือหุ้นกู้ 3 ปี ปรากฏว่าผลประกอบการของบริษัทออกหุ้นกู้ จนทำให้ Credit Rating ของบริษัทปรับเหลือ C ต่ำสุด
มีความเป็นไปได้ที่ทางบริษัทอาจไม่มีเงินคืนให้กับผู้ลงทุน ปัจจัยนี้เป็นความเสี่ยงที่เราจะต้องยอมรับ
5. หุ้นกู้ ดอกเบี้ยต้องจ่ายภาษีหรือไม่
- ดอกเบี้ยหุ้นกู้ต้องเสียภาษีอัตราตามที่กฎหมายกำหนด คือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15%
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ดร.กลางใจ แสงวิจิตร ประธานวิชาเอกการเงินและการลงทุน สาขาวิชาบริหารธุรกิจ
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
