สงขลา พร้อมรับผู้เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย เน้นตรวจเข้มทุกมาตรการคัดครอง

เสียงสัมภาษณ์ เตรียมรับผู้เดินทางกลับมาจากประเทสมาเลเซีย โดย นายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินาถ อำเภอนาทวี รักษาราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดา จ.สงขลา

ก่อนหน้านี้มีคนไทยในประเทศมาเลเซียได้ทยอยเดินทางกลับมาก่อนที่ประเทศมาเลเซียจะประกาศปิดประเทศเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมากว่า 13,000 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้าออกประเทศตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ยังมีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่ยังตกค้าง ซึ่งล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศเปิดให้มีการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับ ปรากฏว่ามีผู้มาขอลงทะเบียนกว่า 3,000 คน และอีก 5,000 คน เป็นบุคคลที่ไม่มีในระบบ 

และวันที่ 18 เมษายน 2563 จ.สงขลา ได้กำหนดไว้ 4 ช่องทาง วันละ 300 คน คือ ด่านพรมแดนวังประจัน ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล รับวันละ 50 คน ด่านพรมแดนสะเดา ตำบลสำนักขาม เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่สามารถรับมือกับบุคคลจำนวนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด ได้จัดเตรียมสถานที่ในการกักตัวคนไทยที่จะเดินทางกลับในวันที่ 18 เมษายนนี้ จำนวน 52 จุด  

เน้นการคัดกรองอย่างเข้มข้น จัดการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทำการเตรียมช่องทางการเข้า สถานที่พัก การตรวจสอบเอกสารการเดินทางที่ได้รับอนุญาตจากสถานทูต ที่สำคัญคือเอกสารยินยอมที่ต้องถูกกักตัวโดยรัฐ ในสถานที่กักตัวที่กำหนดเป็นเวลา 14 วัน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจสอบเชิงลึก ได้ทำการซักซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินาถ อำเภอนาทวี รักษาราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดา กล่าว

ในส่วนด่านพรมแดนสะเดา ทางจังหวัดสงขลา เปิดให้เดินทางเข้ามา ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น. ซึ่งที่บริเวณด่านศุลกากร ได้มีการจัดเตรียมสถานที่แยกจากจุดเข้า-ออก ทั่วไป เพื่อทำการซักประวัติย้อนหลัง 7 วัน การตรวจหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และใบรับรองแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข สหพันธรัฐมาเลเซีย การตรวจคัดกรองตามหลักสาธารณสุข แล้วเข้าสู่ระบบพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะมีตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน อีกครั้ง 

เน้นย้ำให้มีการตรวจเข้มตั้งแต่บริเวณประตูขาเข้าประเทศ เข้ามากรอกแบบฟอร์ม และคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน ตรวจซ้ำด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ พร้อมล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นมาตรการเข้มงวดสูงสุด เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 หากพบอุณหภูมิร่างกายสูง จะส่งเข้ากระบวนการสอบสวนโรคและนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที  โดยผู้ที่มีภูมิลำเนาใน จ.สงขลา จะส่งไปกักตัวในสถานกักกันอำเภอต่าง ๆ ทั้ง 16 อำเภอ ตามภูมิลำเนา ส่วนคนที่อยู่ต่างภูมิภาค และต้องเดินทางไกลจะเข้ารับการกักตัวที่ โรงแรมเอ็มโซโห (M SOHO) อำเภอสะเดา ก่อน 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ โดยแต่ละพื้นที่เตรียมสถานที่ควบคุมโรค กักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ รวม 67 แห่ง จำนวน 2,495 ห้อง

ขอบคุณภาพข่าวจาก hfocus และ ThaiPBS