‘PSU Broadcast’ ประมวลข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ในวันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) อนุมัติงบฟื้นฟู-เงินเยียวยาน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ แผนอนุรักษ์ทะเลสาบสงขลา รวมถึงโครงการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ 5 จังหวัดรวมกว่า 600 ล้านบาท ด้านภาคประชาชนเดินทางยื่นหนังสือค้านระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้-แลนด์บริดจ์
ประมวลเหตุการณ์ช่วงเช้า
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 ณ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ราวเวลา 09:00 น. พร้อมรับชมการแสดงสินค้า OTOP จังหวัดสงขลาตามจุดในศูนย์ประชุมนานาชาติฯ
คณะรัฐมนตรีร่วมสวมเสื้อ “ผ้าบาติกลายสมิหลา” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา พร้อมเดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการภายในพื้นที่ศูนย์ประชมฯ และสินค้า OTOP เช่น วิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟสะบ้าย้อย กลุ่มหัตถกรรมใยตาลสทิงพระ (กลุ่มโหนดทิ้ง) วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์หัตถกรรมลูกปัดมโนราห์บ้านขาว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าสะพานพลา/เด็กทอผ้า และท่องเที่ยววิถีชุมชน ฅนท่าข้าม เป็นต้น


ตั้งแต่เวลาราว 08:30 น. ณ บริเวณหน้าอาคารโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถนนปุณณกัณฑ์ กลุ่มภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เดินทางมายื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในประเด็นคัดค้านการผลักดันกฎหมายระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor – SEC) และโครงการแลนด์บริดจ์ จ.ชุมพร-ระนอง
ร่างกฎหมาย SEC ได้รับการผลักดันร่างกฎหมายจากพรรคภูมิใจไทย และมีแนวโน้มการเสนอร่างกฎหมายประกบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายประชาสังคมชี้ว่าเป็นการยกเลิกกฎหมายปกติหลายฉบับ เช่น กฎหมายผังเมือง กฎหมายโรงงาน กฎหมายควบคุมอาคาร ฯลฯ และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในลักษณะเดียวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
นอกจากประเด็นคัดค้านกฎหมาย SEC แล้ว ยังมีการยื่นข้อเสนอปรับปรุงกฎหมายชาติพันธุ์ซึ่งส่งเสริมสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และ กลุ่มชาติพันธุ์มันนิในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเครือข่ายประมงพื้นบ้านยื่นหนังสือแสดงความกังวลการแก้ไขกฎหมายประมงมาตรา 69 ซึ่งเกี่ยวกับอวนตามุ้งและการทำประมงเวลากลางคืนอาจส่งผลต่อความหลากหลายของสัตว์น้ำและประมงพื้นบ้าน
ระหว่างการชุมนุม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมารับฟังข้อเสนอและรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม

แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
เวลา 12:45 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี แจงมติคณะรัฐมนตรีสำคัญ ดังนี้
หนึ่ง โครงการฟื้นฟูซ่อมแซมสาธารณูปโภคจากเหตุอุทกภัยพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส ครอบคลุมคันกั้นน้ำ ถนน เขื่อนป้องกันตลิ่ง ระบบระบายน้ำที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 22 โครงการ กรอบวงเงิน 304.8 ล้านบาท ตามที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอหลักการ
สอง โครงการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง 23 โครงการ กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท คณะโฆษกเผยว่าการดำเนินงานให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดขอรับการจัดสรรจากงบกลางปี 2568 และให้สำนักงบประมาณพิจารณาความพร้อมและความเหมาะสมของวงเงินอย่างเคร่งครัด (ตามที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอหลักการ)
สาม โครงการจากข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จำนวน 12 โครงการ กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท ขอการจัดสรรงบกลางจากปี 2568 รายละเอียดได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การกำจัดวัชพืชในทะเลน้อย ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน มีรายละเอียดแต่ละโครงการจากการรายงานตรงกันของสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ และ สำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ ดังนี้

โครงการกลุ่มจังหวัด
จำนวน 2 โครงการ คือ
- โครงการพัฒนาระบบ Soft Power เพื่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา งบประมาณที่เสนอขอ 5,073,000 บาท
- โครงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตลาดท่องเที่ยว มหกรรมอาหาร และสตรีทฟู้ดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา งบประมาณที่เสนอ 44 ล้านบาท
รายจังหวัด
จังหวัดสุราษฎ์ธานี 1 โครงการ ได้แก่
โครงการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 4112 ตอน สนามบิน – ชะเมา ระหว่าง กม.4+800 – กม.4+864 ระยะทาง 0.064 กิโลเมตร และทางหลวงหมายเลข 4014 ตอน บ้านดอนสัก – ท่าเรือเฟอร์รี่ ระหว่าง กม.4+800 – กม.4+864 ระยะทาง 0.064 กิโลเมตร เสนอโดยกระทรวงคมนาคม งบประมาณ 50 ล้านบาท
จังหวัดสงขลา 3 โครงการ ประกอบด้วย
- โครงการพัฒนาศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภาคใต้ ครัวใต้สู่ครัวโลก (Southern Food Hub To The World) ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วงเงิน 25 ล้านบาท
- โครงการพัฒนาศักยภาพเมืองและชุมชนเพื่อสนับสนุนการเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ของกระทรวงวัฒนธรรม วงเงิน 10 ล้านบาท
- โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณแยกน้ำกระจาย จังหวัดสงขลา ทางหลวงหมายเลข 407 ตอน ควนหิน –เขารูปช้าง ระหว่าง กม.21+300 –กม.21+800 ระยะทาง 0.500 กิโลเมตร ของกระทรวงคมนาคม วงเงิน 15 ล้านบาท
จังหวัดชุมพร เสนอ 3 โครงการ 50 ล้านบาท โดยกระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วย
- โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณเขาดินสอ ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร งบประมาณ 28 ล้านบาท
- โครงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำร้อนถ้ำเขาพลู ตำบลสวนแตง อำเภอละแม จังหวัดชุมพร 10 ล้านบาท
- โครงการก่อสร้างสะพานพรุกระจูด ความยาว 50.00 เมตร ชนิดมีทางเท้ากว้าง 1.50 เมตร ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร 12 ล้านบาท
จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 โครงการ จำนวน 50 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการส่งเสริมการแช่แข็งวัตถุดิบอาหารทะเลมูลค่าสูงด้วยการแช่แข็งด้วยน้าเกลือ (Brine Freezing โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์งบประมาณ 10 ล้านบาท
- โครงการสีสันราชดำเนิน Light & Sound วงเงิน 40 ล้านบาท
จังหวัดพัทลุง โดยกระทรวงคมนาคม เสนอ 1 โครงการ วงเงิน 50 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการยกระดับมาตรฐานทางและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน ควบคุม 1302 ตอน พัทลุง – นาโหนด ระหว่าง กม. 1164+000 – กม. 1165+500 (RT.)
สี่ คณะรัฐมนตรี อนุมัติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 2567 เพิ่มเติม อนุมัติงบรายจ่ายงบกลาง 2568 เพิ่มเติม 3,653.72 ล้านบาท และอนุมัติพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติม ใน จ.ระนองซึ่งมีครัวเรือนได้รับผลกระทบ 405,969 ครัวเรือน
ในช่วงตอบคำถามจากผู้สื่อข่าวด้านผู้ชุมนุมและการคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐมนตรีที่จะสื่อสารเพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้นถึงผลดี และ เป้าหมายของโครงการหากผลักดันสำเร็จ
แผนฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา-อนุรักษ์โลมาอิรวดี ร่างกฎษฎีกาคลองระบายน้ำคลองตง
คณะโฆษกรัฐบาล นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดมติคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติม ได้แก่
หนึ่ง แผนอนุรักษ์โลมาอริวดี 402.818 ล้านบาท พร้อมกับฟื้นฟูความสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลาและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในระยะ 5 ปีแรก ซึ่งใช้จ่ายจากเงินช่วยเหลือให้เปล่าจากต่างประเทศและกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.)
หน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมประมง
ในการดำเนินโครงการ คณะรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงการคลัง นำขอบเขตงาน ตัวชี้วัด และขอบเขตค่าใช้จ่าย สำหรับแผนอนุรักษ์โลมาอริวดีเพื่อเจรจาเงินกู้กับธนาคารโลก ควบคู่กับโครงการการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ และ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท
สอง อนุมัติโครงการจัดส่งนักศึกษาชายแดนภาคใต้ เข้าต่อมหาวิทยาลัยในระยะที่ 11 ระหว่างปี 2567-2571 ภายใต้กรอบวงเงิน 32.63 ล้านบาท จัดสรรเงินทุนอุดหนุนการศึกษาและสงวนอัตราเข้ารับราชการ
รายชื่อมหาวิทยาลัยในโครงการ 12 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยทคโนโลยีสุรนารี, มหาวิทยาลัยนเรศวร, และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
สาม อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ต.พะตง อ.หาดใหญ่ เพื่อทำโครงการคลองระบายน้ำคลองตง เพื่อพื้นที่การเกษตรและป้องกันบรรเทา อุทกภัย
ผลบังคับใช้ 3 ปี สำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ และเมื่อก่อสร้างสำเร็จแล้วคาดการณ์จะป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ต.พะตง เพิ่มเครื่องมือบริหารจัดการน้ำ และเพิ่มเส้นทางคมนาคมเข้าพื้นที่เกษตรกรรม แบ่งรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณ คือ
- ค่าซื้อที่ดิน 83 แปลง 91 ไร่เศษ 150 ล้านบาทเศษ
- ค่าทดแทนต้นไม้ ค่าผลไม้ โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น 93 ล้านบาท
- ค่าทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เป็นเงิน 4.8 ล้านบาทเศษ
- ที่ริมตลิ่ง เนื้อที่ 6 ไร่เศษ 4.7 ล้านบาทเศษ
- รวมค่าทดแทนสินทรัพย์ทั้งโครงการ 253.247 ล้านบาท
เดินทางเยี่ยมด่านศุลกากรสะเดา ปิดท้าย
ในช่วงบ่ายจะดำเนินการไปที่ด่านศุลกากรสะเดาซึ่งยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการซึ่งติดปัญหาด้านการเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย และจะพิจารณางบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจะส่งผลให้เกิดการเปิดด่านศุลกากรได้
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ภาพ: สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล/ สื่อเถื่อน