สงขลานครินทร์ เดินหน้ายุทธศาสตร์ “ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน”

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เดินหน้ายุทธศาสตร์ “ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน” โดยมีเป้าหมายในการดูแลสุขภาพของคนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน รวมทั้งผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยว นับว่าเป็นการสนองยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล โดยการพัฒนาเป็นวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ จะมีการผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับการแก้ปัญหาสาธารณสุขและการขาดแคลนบุคลากรในพื้นที่จังหวัดอันดามันอีกด้วย

“จากข้อมูลการส่งต่อผู้ป่วยหนักเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ของ 3 จังหวัดอันดามันคือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในปี 2562 ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวน ทั้งสิ้น 5,820 คน คิดเป็นจำนวนครั้งในการส่งต่อ 10,106 ครั้ง สะท้อนถึงการขาดโอกาสการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงของคนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน และหากรวมตัวเลขผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่อันดามัน รวมถึงผู้ป่วยที่อาจจะเลือกเดินทางไปรักษาที่กรุงเทพมหานครเข้าไปด้วย เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีสูงกว่านี้มาก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวรวมทั้งเป็นการลดค่าใช้ในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้”

รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต
โครงสร้างการดำเนินงานศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก

            1. วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ (International Health and Science College) จะมีผลิตบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขของพื้นที่อันดามันและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยมีเป้าหมายในการผลิตทั้งแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เทคนิคการแพทย์และแพทย์แผนไทย นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นโอกาสทางการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์การศึกษาด้านสาธารณสุขของภูมิภาคอาเชียนด้วย

            2. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (Songklanagarind Hospital Phuket Campus) เพื่อให้ประชาชนในกลุ่มจังหวัดอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อน โดยที่สถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันและประเทศไทย โดยเตรียมความพร้อมทั้งองค์ความรู้และบุคลากรเพื่อรองรับปัญหาทางด้านสุขภาพใหม่ ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งการรองรับสังคมผู้สูงวัย

            3. ศูนย์สุขภาพนานาชาติ (International Wellness Center) เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ให้ได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว และเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง โดยสร้างเอกลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดูแลแบบครบวงจร ทั้งรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพและส่งเสริมสุขภาพ

ด้าน รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดตั้งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า คณะทำงานขับเคลื่อนการจัดตั้งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีแนวคิดที่จะเริ่มดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จัดตั้งคลินิกรักษ์สุขภาพเพื่อให้บริการบุคลากรและบุคคลภายนอก ระยะที่ 2 จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลขนาด 100-150 เตียง เพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป และระยะที่ 3 เพื่อขยายการให้บริการ ขนาด 300 เตียง ซึ่งมีแนวคิดที่จะดำเนินการก่อสร้างบนพื้นที่ 17 ไร่ ภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ต่อไป

“นอกจากนี้ในด้านความพร้อมการเปิดวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นั้น จะต้องมีการเขียนหลักสูตรทางการแพทย์เพื่อส่งให้แพทยสภารับรอง ซึ่งคิดว่า 2 ปี น่าจะดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการเขียนหลักสูตร และคณะกรรมการปรับปรุงเพื่อพัฒนาเป็นโรงพยาบาลซึ่งจะต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยได้มีการผลักดันมาเป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การจะเป็นโรงพยาบาลและวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ในส่วนของคลินิกคิดว่าน่าจะเปิดได้ประมาณเดือนตุลาคม 2563”

นายจำรัส ปิติกุลสถิตย์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีการบริการสปาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกจำนวนมาก มีคลินิกเอกชน มีโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนอีกที่ได้รับการมาตรฐาน JCIA (Joint Commission International Accreditation USA) ภูเก็ตมีจำนวนสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งหมดที่เข้าระบบและผ่านการรับรองมาตรฐานมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร และมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนานาชาติ แต่ขาดการเชื่อมโยงบริการต่าง ๆ ระหว่างผู้ประกอบการที่ให้บริการทางการแพทย์ และการบริการเชิงส่งเสริมสุขภาพ เพื่อนำเสนอการบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้บริการของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม การกำหนดทิศทางความเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างการบริการเชิงการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตเพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) ในอนาคต

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินการจัดทำโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน เพื่อตอบโจทย์ในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และจัดให้มีการประชุมหารือรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ และผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านในหลากหลายวาระและโอกาส ซึ่งกรรมการส่งเสริมกิจการ ม.อ.ภูเก็ต ได้มีมติเห็นชอบในการดำเนินการ