วันนี้ (24 ธันวาคม 2564) ศูนย์อาสาสมัคร ม.อ. จัดมหกรรมจิตอาสาภาคใต้ครั้งที่ 4 : มหาวิทยาลัยสู่ชุมชนฝ่าวิกฤติโควิด รูปแบบออนไลน์ สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการขับเคลื่อนโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (U2T) มุ่งเน้นที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งการสร้างงาน การพัฒนาอาชีพในชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ผศ.ดร.นฤทธิ์ ดวงสุวรรณ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมจิตสาธารณะและการพัฒนาที่ยั่งยืน ม.อ. กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 ในปัจจุบันทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดมหกรรมจิตอาสาภาคใต้ครั้งที่ 4 : มหาวิทยาลัยสู่ชุมชนฝ่าวิกฤติโควิด เป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานด้านอาสาสมัครเพื่อสังคมในพื้นที่ภาคใต้ และเปิดเวทีรับฟัง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมทั้งการนำเสนอผลการดำเนินงานของโครงการ U2T ซึ่งในระยะแรกนี้ศูนย์อาสาสมัคร ม.อ. ได้ดำเนินโครงการ U2T จำนวน 8 ตำบล 4 อำเภอ ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ตรัง และสงขลา หวังพัฒนาเศรษฐกิจการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยกตัวอย่างเช่น วิทยาเขตตรังเน้นการพัฒนาผลผลิตข้าวแบบครบวงจร ส่วนที่อื่นๆเป็นการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของชุมชน การพัฒนาศูนย์เรียนรู้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของอาสาสมัคร โดยตั้งเป้าหมายไว้เรื่องการสร้างแรงจูงใจ สร้างแรงบันดาลให้แก่คนทำงาน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในมิติใหม่ๆ จากการทำงานจริงในพื้นที่ของอาสาสมัคร รวมถึงเครือข่ายเยาวชนจิตอาสาภาคใต้และเรียนรู้การวางแผนแนววางการทำงานระยะที่ 2 ในอนาคต
โดยมหกรรมจิตอาสาภาคใต้ครั้งที่ 4 : มหาวิทยาลัยสู่ชุมชนฝ่าวิกฤติโควิด รูปแบบออนไลน์ ประกอบไปด้วย ปาฐกถาพิเศษ “ประสบการณ์การทำงานชุมชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเองและสังคม” โดยตัวแทนจาก U2T ทั้ง 8 ตำบลของศูนย์อาสาสมัคร ม.อ. และบัณฑิตอาสา ม.อ.รุ่นที่ 17 เวทีเสวนา/แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานอาสาสมัคร ในประเด็นต่างๆ ได้แก่ เวทีนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการ U2T เวทีแลกเปลี่ยนการทำงานของผู้นำชุมชน เวทีเสวนาของผู้นำนักศึกษา“No limit จิตอาสา” เวทีเสวนา“ผู้นำเยาวชนจิตอาสาภาคใต้กับบทบาทการพัฒนาเพื่อชุมชน” และเวทีเสวนา“คนรุ่นใหม่กับการท่องเที่ยวชุมชน” โดยคาดว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนงานในระยะต่อไป ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับภาคีเครือช่ายทุกภาคส่วนในการพัฒนาอาสาสมัครเพื่อสังคม และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน