วิสัยทัศน์ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ 2568

วันนี้ (2 พ.ค. 2568) สถานีวิทยุ ม.อ.หาดใหญ่ ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครรับเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ ณ หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งแต่เวลา 13:00-16:00 น. ประกอบด้วย

ผู้สมัครหมายเลข 1 – พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี (ทีมพี่หลวงคร)

ผู้สมัครหมายเลข 2 – นายณรงค์พร ณ พัทลุง (ทีมปลัดแป้น)

ผู้สมัครหมายเลข 3 – นายพีรวุฒิ วิชัยดิษฐ กีรติกานต์ (ทีมพีรวุฒิ)

ผู้สมัครหมายเลข 4 – พ.อ.(พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล (ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม)

และ ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลอิสระ เขต 3 – นายบัณฑิต แก้วประดิษฐ์

ทั้งนี้ ดร.กิตติ เรืองเริงกุลฤทธิ์ ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวถึงความจำเป็นของการจัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับ สถานีวิทยุ ม.อ. หาดใหญ่ – PSU Broadcast

ว่าเพื่อเปิดการมีส่วนร่วมภาคพลเมือง และเปิดพื้นที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่แสดงวิสัยทัศน์และแนวนโยบายเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับประชาชนในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ในการเลือกตั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ อันเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย

ในการแสดงวิสัยทัศน์รอบ ‘นโยบาย’ จากคำถามที่ว่า ‘หากได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนั้น จะดำเนินนโยบายอะไรบ้าง’ ผู้สมัครแต่ละหมายเลขแสดงวิสัยทัศน์ ดังนี้

[หมายเลข 1 – พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี]

พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ในฐานะอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ปี พ.ศ.2564-2568 นั้น กล่าวว่าการทำงาน 2 ปีแรกของตน ต้องรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดด้านเวลาและการจัดเก็บรายได้ของเทศบาลที่ลดลง ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่งผลให้หลายโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเริ่มต้นดำเนินการในปีที่ 3 ของการดำรงตำแหน่ง พร้อมกล่าวว่าตนพร้อมสานต่อการดำเนินนโยบาย หากได้รับการเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ดังนี้

– นโยบาย ‘หาดใหญ่ต้องปลอดภัยจากน้ำท่วม’ – พล.ต.ท.สาคร กล่าวว่าแม้พื้นที่ลุ่มน้ำใน อ.หาดใหญ่นั้น จะมีการก่อสร้างและดำเนินการคลองระบายน้ำที่ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแล้ว แต่ตนอ้างว่าเทศบาลฯ ได้ดำเนินการป้องกันน้ำท่วม ด้วยการเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำ ขุดลอกคูคลอง พัฒนาระบบตรวจจับระดับน้ำ และ มีการซักซ้อมรับมือเหตุภัยพิบัติ

– นโยบาย ‘หาดใหญ่ปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV’ ด้วยการติดตั้งกล้อง 408 จุด เฝ้าระวังและรับมือเหตุผิดปกติ

– นโยบายรับมือปัญหารถติด – ตนกล่าวว่าจะแก้ไขผ่านเทคโนโลยีไฟอัจฉริยะ ผ่านระบบเซนเซอร์ ตรวจจับปริมาณรถและกำหนดไฟเขียว-แดงได้ตามสถานการณ์

– โครงการตลาดสดพลาซ่าแห่งที่ 2 – พัฒนาตลาดให้เป็นพื้นที่ทันสมัย

– โครงการสาธารณสุข – ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข รองรับผู้ป่วยติดเตียง และเข้าถึงการดูแลสุขภาพ รวมถึงมีศูนย์บริการดูแลสุขภาพสุนัขและแมว

– ดำเนินงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน เทศบาลนครหาดใหญ่

[หมายเลข 2 – นายณรงค์พร ณ พัทลุง]

นายณรงค์พร ณ พัทลุง ทีมปลัดแป้น ผู้สมัครหมายเลข 2 กล่าวถึงคณะทำงานฝ่ายบริหารของตนเองว่าประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ และ รองปลัดเทศบาล ซึ่งพร้อมดำเนินงานด้านนโยบายสาธารณสุขและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นายณรงค์พรกล่าวถึงนโยบายในภาพรวมว่าจะผลักดันเป็น ‘เทศบาลสวัสดิการ’ เพื่อให้คนหาดใหญ่เข้าถึงสถานพยาบาล สถานศึกษา และการใช้ชีวิตในสังคมสูงวัยและช่วงสุดท้ายของชีวิต ด้วยการบริหารงานงบประมาณของเทศบาล ประกอบด้วย

– โรงพยาบาลเทศบาลนครหาดใหญ่และศูนย์ฟอกไต

– การเข้าถึงการศึกษา – พร้อมกล่าวถึงปัญหาเด็กออกนอกระดับการศึกษาในพื้นที่หาดใหญ่ และกล่าวว่าตนมีนโยบายให้เด็กเข้าถึงการศึกษาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง

– พื้นที่สาธารณะ – นายณรงค์พรกล่าวว่า ตนมีนโยบายสร้างพื้นที่สาธารณะสำหรับการออกกำลังกาย และสันทนาการ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการรื้อฟื้นสถานที่-จุดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ไอซ์โดม โครงการพัฒนาเทศกาลโคมไฟเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น

– นโยบาย ‘ยุวสภา’ ดำเนินการสภาเยาวชนเพื่อเสนอโครงการต่อฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติของเทศบาลนครหาดใหญ่

– กระจายพื้นที่เศรษฐกิจทั่วเมืองหาดใหญ่ สนับสนุนการค้าขายในพื้นที่หาดใหญ่ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน รวมถึงการกำหนดโซนนิ่งสถานบริการและกำหนดแนวทางการเข้าถึงใบอนุญาตในการประกอบกิจการอย่างถูกต้อง

เพิ่มที่จอดรถภายในตัวเมือง

[หมายเลข 3 – นายพีรวุฒิ วิชัยดิษฐ กีรติกานต์]

นายพีรวุฒิ วิชัยดิษฐ กีรติกานต์ ทีมพีรวุฒิ ผู้สมัครหมายเลข 3 กล่าวว่าแง่มุมสำคัญของหาดใหญ่คือการเป็นเมืองท่องเที่ยวและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือประชาชนขาดกำลังซื้อในการจับจ่ายใช้สอยและมีความซบเซาทางเศรษฐกิจ ซึ่งตนเสนอแนวนโยบาย ได้แก่

– นโยบาย 7 วัน 7 ย่านการค้า ด้วยการดำเนินงานส่งเสริมจุดเด่น ศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ทั้งการสนับสนุนอาหารการกิน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสร้างจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

-สนับสนุนและสร้างมาตรฐานพื้นที่ค้าขายสำหรับผู้ค้ารายย่อย ด้วยนายพีรวุฒิยกตัวอย่างการค้าขายในพื้นที่ตลาดสดพลาซ่า ซึ่งในปัจจุบันกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารตลาดใหม่ แต่ผู้ค้าเดิมยังปักหลักค้าขายอย่างต่อเนื่อง

-นโยบายสร้างจุดแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวจุดใหม่ เช่น พื้นที่สวนหย่อมและพื้นที่รอบลำคลองซึ่งเชื่อมโยงกับตลอดโก้งโค้ง บริเวณหลังโรงเรียนแสงทอง ผ่านการพัฒนาพื้นที่คลองเตยซึ่งไหลผ่านเมืองหาดใหญ่ ผ่านการบำบัดน้ำเสียและพัฒนาคุณภาพน้ำ

– พัฒนาพื้นที่ทางสิ่งแวดล้อม เช่น บริเวณเขาคอหงส์ถือเป็นต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมของหาดใหญ่

-นโยบายการเป็น ‘เซลส์แมน’ ในฐานะบทบาทของนายกเทศมนตรี ในการเปิดตลาดการค้าใหม่

[หมายเลข 4 – สุชาติ จันทรโชติกุล]

พ.อ.(พิเศษ) สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมหาดใหญ่ต้องดีกว่าเดิม ผู้สมัครหมายเลข 4 กล่าวว่าตนกำหนด 2 พันธกิจในการดำเนินงาน แบ่งเป็น การดำเนินร่วมกับชุมชน และ ยุทธศาสตร์พัฒนาหาดใหญ่ในภาพรวม แบ่งเป็นการจัดสรรงบประมาณดำเนินการและแก้ไขปัญหา ได้แก่

ด้านการสนับสนุนงบประมาณชุมชน รวม 250 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น

– งบประมาณชุมชนสำหรับจัดกิจกรรมและอีเวนต์ ปีละ 130 ล้านบาท ใน 103 ชุมชน

– งบประมาณดูแลคนยากจนและผู้ป่วยติดเตียง 50 ล้านบาท

– งบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมธุรกิจชุมชน 40 ล้านบาทต่อปี

– งบประมาณสนับสนุนสุขภาพและการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ 10 ล้านบาทต่อปี

– งบประมาณสนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรม 10 ล้านบาทต่อปี สนับสนุน 7 วัด 5 มัสยิด 27 โรงเจ

– งบประมาณสนับสนุนคนพิการ 10 ล้านบาทต่อปี ส่งเสริมการดำรงชีวิตและสนับสนุนการประกอบอาชีพ

พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ กล่าวว่าหากตนดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี แล้วไม่สามารถผลักดันเงินงบประมาณส่วนนี้สำเร็จนั้น ตนจะขอลาออกจากตำแหน่งทันที

[บัณฑิต แก้วประดิษฐ์ ผู้สมัคร สท.อิสระ]

ด้านผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลอิสระ 1 คน – นายบัณฑิต แก้วประดิษฐ์ กล่าวถึงความสำคัญของการดำเนินงานฝ่ายนิติบัญญัติว่าเป็นการตรวจสอบการใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการเชื่อมโยงเสนอปัญหาของประชาชนในพื้นที่สู่เทศบาลนครหาดใหญ่ภาพรวม แบ่งเป็น

– การทำงานรวบรวมปัญหา ความเดือดร้อน เพื่อสะท้อนสู่ฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติการ เช่น ปัญหาขยะ ปัญหายุงลาย เป็นต้น รวมถึงส่งเสียงเพื่อพัฒนา ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น ผู้ประกอบอาชีพรับจ้าง กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงการส่งเสริมการศึกษา

– ด้านบทบาทหน้าที่ของสภาเทศบาล: นายบัณฑิตกล่าวว่าตนจะดำเนินงานตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ด้วยการยึดหลักความโปร่งใส ความเป็นธรรม และ ให้ความร่วมมือ รวมถึงสนับสนุนการทำงานของฝ่ายบริหารอย่างสร้างสรรค์

-ด้านการตรวจสอบและถ่วงดุลกระบวนการทำงานของฝ่ายบริหารและการประสานงานเพื่อเป็นความเชื่อมโยงระหว่างการดำเนินงานของเทศบาล-ข้าราชการ-ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ย้อนฟังเวทีแสดงวิสัยทัศน์ย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/PSUBroadcast/videos/1715624056016354

เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ภาพ: ภานิชา ปณัยเวธน์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *