“ขยะทุกชิ้นมีปลายทาง” แนวคิดการจัดการขยะในงาน “กินเจหาดใหญ่” 2568

หากใครได้ไป “กินเจหาดใหญ่” ที่สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ภายในตัวงาน นั่นคือจุดทิ้งขยะและการคัดแยกขยะ (และอาสาสมัครประจำจุด) นั่นเอง

เทศกาลกินเจหาดใหญ่ 2568 ตั้งแต่วันที่ 20-29 ตุลาคม 2568 ณ สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) โดย สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาและหน่วยงานเครือข่าย จัดงานกินเจในธีมงาน ‘กินเจ go green’ 

นอกเหนือจากการออกร้านค้าร้านอาหารเจแล้ว ภายในงานยังมีการสนับสนุนให้นำภาชนะส่วนตัวมาจับจ่ายอาหารภายในงาน รวมถึงมีพื้นที่สำหรับทิ้งขยะที่มีการคัดแยกประเภทขยะก่อนทิ้ง เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นภายในงาน ส่งต่อปลายทางรีไซเคิลและใช้งานต่อ 

คุณกิตธนา สุบรรพวงศ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวถึงแนวคิดในการจัดงานในธีม ‘กินเจ go green’ ปีนี้ว่า จากการที่ตนเข้ามารับหน้าที่ประสานงานรับผิดชอบจัดงานกินเจนั้น นอกจากงานและกิจกรรมตามวิถีประเพณีและความเชื่อแล้ว การออกร้านค้าร้านอาหารจะเกิดสิ่งที่ตามมาคือ “ขยะ” ภายในงานที่เกิดขึ้น จึงเกิดแนวคิดที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิรักบ้านเกิด ภาคใต้ ที่จะสร้างสรรค์กระบวนการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้น

คุณกิตธนา สุบรรพวงศ์ (ภาพ: มูลนิธิรักบ้านเกิด ภาคใต้)

“ผมมองว่าภายในงานกินเจที่มีการออกร้านค้าร้านอาหาร ต่อให้ของขายดีเท่าไร แต่ ของเสีย ขยะมูลฝอย ก็เพิ่มขึ้นมากและเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม และการทำงานเจปีนี้จึงต้องการแก้ไขปัญหาด้านนี้ด้วย จึงเป็นแนวคิดของการจัดกิจกรรม ‘กินเจ go green’” คุณกิตธนากล่าวถึงแนวคิดที่ตนและกรรมการสมาคมสมาพันธุ์ฯ เห็นร่วมกัน

นอกจากการคัดแยกขยะภายในงานแล้ว ทางคณะผู้จัดงานยังประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ผู้ประกอบการที่ออกร้านใช้ภาชนะลดการใช้แล้วทิ้ง รวมถึงมีโปรโมชันสำหรับผู้นำภาชนะมาซื้ออาหารภายในงาน

การคัดแยกขยะ จะช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?

คุณศุภวรรณ ชนะสงคราม ประธานมูลนิธิรักบ้านเกิด ภาคใต้ คณะทำงานจัดการขยะภายในงานกินเจหาดใหญ่ กล่าวถึงแนวคิดการคัดแยกขยะก่อนทิ้งว่า “ขยะทุกชิ้นนั้นมีปลายทาง” ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ เช่น ขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยหมักหรืออาหารสัตว์, แก้วน้ำล้างสะอาด ขวดพลาสติก หรือกระดาษ เพื่อส่งต่อร้านรับซื้อ เป็นต้น 

คุณศุภวรรณ ชนะสงคราม (ซ้าย) | ภาพ: มูลนิธิรักบ้านเกิด ภาคใต้

ภายในจุดทิ้งขยะภายในงานจึงมีการคัดแยกขยะก่อนทิ้งราว 10 ประเภท เช่น ขยะทั่วไป ขยะเศษอาหารที่แยกน้ำและเนื้อออกจากกัน พลาสติกสะอาด ไม้เสียบลูกชิ้น หลอด ฯลฯ 

นอกจากการคัดแยกขยะแล้ว ยังมี “อาสาสมัคร” คัดแยกขยะอยู่ประจำจุดด้วย สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคย อยากเรียนรู้การคัดแยกขยะ ก็ยังมีกลุ่มอาสาสมัครที่คอยแนะนำ สร้างความประทับใจ และส่งเสริมการเรียนรู้ไปด้วยพร้อมกัน 

คุณศุภวรรณเผยว่า สถิติปริมาณขยะภายในงาน 7 วัน (ข้อมูลเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568) อยู่ที่ราว 2,500 กิโลกรัม สามารถคัดแยกเพื่อหาปลายทางได้ ราว 1,800 กิโลกรัม และที่เหลือต้องส่งหลุมฝังกลบซึ่งเป็นวิธีการจัดการขยะที่ไม่ยั่งยืนอยู่ที่ราว 700 กิโลกรัม

ประธานมูลนิธิรักบ้านเกิด ภาคใต้ กล่าวว่าการจัดการขยะภายในงานครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับทั้งเชิงบวกและเชิงลบ  สำหรับเชิงลบนั้นได้มีการแก้ปัญหาหน้างานร่วมกับอาสาสมัครและพัฒนาปรับปรุงต่อไป แต่ในเชิงบวก คุณศุภวรรณกล่าวว่ามีทั้งเสียงชื่นชม ดีใจที่เห็นการคัดแยกขยะ รวมถึงผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้การแยกขยะภายในงาน

“มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพยายามจะสื่อสารกับเรา เขาบอกว่าดีใจมากที่เห็นการคัดแยกขยะเหมือนต่างประเทศเลย… เราก็คิดว่านี่คือจุดประสงค์ของเรา ถ้าเวลาคนไปต่างประเทศและเห็นการคัดแยกขยะ ก็อาจจะพูดว่า “แยกขยะเหมือนที่หาดใหญ่เลย”” คุณศุภวรรณกล่าวความในใจ 

เทศกาลกินเจหาดใหญ่ 2568 บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) จัดถึงวันนี้ (29 ตุลาคม 2568) สามารถเข้าร่วมงาน ร่วมเรียนรู้การคัดแยกขยะไปพร้อมกันได้เลย 

เรื่อง: กองบรรณาธิการ 
ภาพ: บัญชร วิเชียรศรี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *