ในเรื่องของการระคายเคืองทั่วไปมักเจอง่ายอยู่แล้ว เช่น บางทีแมวหรือสุนัขของเรามักจะซุกซนไปอยู่ใต้โต๊ะหรือเก้าอี้ที่มีฝุ่น พอเค้าออกมาบางทีจะมีการแต่งหน้าแต่งตาโดยเอามือถูๆจนตาแดงได้เหมือนกัน แต่ในการอักเสบทั่วไปบางตัวอาจจะเป็นแค่ 1-2 ชั่วโมงก็จะดีขึ้น แต่ถ้าเราเห็นสัตว์เลี้ยงเกาๆถูๆหน้าตั้งแต่ช่วงเช้า แล้วช่วงบ่ายมีอาการตาแดงและน้ำตาไหล จนถึงช่วงเย็นก็ยังไม่หาย อันนี้อาจเป็นสัญญาณบอกเจ้าของให้ทราบว่าอาจจะต้องใช้ยาบางตัวในการช่วยลดการอักเสบนี้
นายสัตวแพทย์กรฤต จันเนียม
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงมีปัญหาโรคนัยน์ตามากขึ้นด้วยโรคที่ไม่ว่าจะเป็นตาแห้ง ขนตางอกผิดที่ ตาเป็นแผล ต้อกระจก มองไม่เห็นด้วยสาเหตุต่างๆ ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าของสัตว์จึงมีความสำคัญอย่างมาก เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะได้คอยสังเกตและพามาพบสัตวแพทย์ได้ทันท่วงที และช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพดีขึ้น
ทำความรู้จักลักษณะปกติทางกายวิภาคของดวงตาและสิ่งผิดปกติที่จะสังเกตได้ง่ายๆ กันก่อน
- หนังตา (eyelid) โดยทั่วไปจะมีผิวเรียบสีดำ น้ำตาล หรือชมพู การบวมหรือแดง มักเกิดจากภาวะคันหรืออักเสบ
- ส่วนของตาขาว (conjunctiva) เยื่อตาด้านในมีสีชมพู จะพบเส้นเลือดเล็กน้อย ในส่วนที่เป็นเยื่อตาขาว การที่มีเส้นเลือดมากผิดปกติ หรือ”ตาแดง” อาจเป็น การอักเสบหรือ รุนแรงถึงขั้นเป็นแผลได้
- ส่วนของตาดำตรงกลางจะเรียกว่ากระจกตา (cornea) มีลักษณะใส สามารถ มองทะลุได้ การผิดปกติอาจมีสีเช่น ขุ่นขาว แดงอาจเป็นการอักเสบ หรือภาวะ ต้อหิน สีดำอาจเป็นการอักเสบเรื้อรังภายในตาดำที่เป็นส่วนใสจะมีรูที่ขยายและหดได้ที่เรียกว่ารูม่านตา(pupil) สังเกตโดย เมื่อส่องไฟรูม่านตาจะหดตามการตอบสนองปกติ ถ้าไม่หดอาจ มีปัญหากับระบบประสาท เช่นต้อหิน การอักเสบภายในลูกตา หรือภาวะม่านตาเสื่อม เป็นต้น
- รอบนอกของรูคือม่านตา(iris) ซึ่งอาจมีหลายสีขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ สีของม่านตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นสามารถระบุถึงบางโรคได้ เช่น เนื้องอกหรือภาวะการอักเสบ เมื่อมองทะลุส่วนของรูม่านตาเข้าไปจะมีส่วนประกอบไม่มีสีและลักษณะใสเรียกว่าแก้วตา (lens) เมื่อมีความขุ่นมากขึ้นจนสังเกตได้อาจบอกถึงความชรา หรือภาวะต้อกระจกได้ บางครั้งเราอาจเห็น หรือถ่ายรูปคล้ายมีการสะท้อนแสงจากภายในลูกตาซึ่งจะระบุว่าสุนัขตาวาว ความหมายนี้คือการสะท้อนแสงจาก จอประสาทตา (retina) ที่เป็นตัวรับภาพด้านหลังแก้วตาอีกทีจะมีหลายสี เช่น เขียว เหลือง หรือ แดง
การดูแลใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ในพันธุ์ขนยาว เช่น สุนัขพันธุ์ชิสุและมอลทีส การผูกจุกจะช่วยในเรื่องของขนไม่ให้ทิ่มตา ขณะเดียวกันให้ระวังการผูกที่ตึงมากเกินไปอาจทำให้หลับตาไม่สนิทและมีปัญหากระจกตาตามมาได้ ในกรณีที่สุนัขหรือแมวมีขี้ตาเยอะ เนื่องจากไม่สบายหรือตาแห้ง การล้างตาที่ถูกต้องไม่ควรจะใช้สำลีถูหรือเช็ดโดนกระจกตา และน้ำยาล้างตาที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาดหรือน้ำยาล้างตา ไม่ควรใช้น้ำยาเช็ดคอนแทคเลนส์ เนื่องจากทำให้ตาแห้งได้และอาจมีผลต่อกระจกตาได้ สีและลักษณะของขี้ตาก็สามารถบอกความรุนแรงได้
ถ้าขี้ตาสีเขียวแสดงว่าตามีการติดเชื้อหรือว่าตาแห้งอย่างรุนแรง สำหรับสายพันธุ์ของสุนัขเป็นอีกประเด็นที่เจ้าของต้องให้ความสนใจดูแลสุขภาพนัยน์ตาเป็นพิเศษ เช่น สุนัขพันธุ์ปั๊กและชิวาวา มีลูกตาที่โปน ควรระวังการกระทบกระแทก ซึ่งอาจทำให้ลูกตาถลนง่ายกว่าพันธุ์อื่น สุนัขพันธุ์ชาไป่และเชาเชา มักมีปัญหาของขนตาม้วนเข้าทำให้เกิดการระคายเคืองได้ สุนัขพันธุ์ชิสุและปักกิ่ง มีปัญหาเรื่องขนตาจากสันจมูกทิ่มเข้ากระจกตาได้
“การสังเกตุเมื่ออาการสุนัขเจ็บตาดูได้จากการที่สุนัขหรี่ตาและกะพริบตาบ่อยๆ น้ำตาไหลเยอะ พยายามไถหน้าหรือเกาตา การแก้ไขเบื้องต้นควรใส่ที่ครอบกันเลีย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้น ไม่ควรซื้อยามาหยอดเองและรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์”