ออกแบบ “สุขภาพดี” ด้วยโภชนาการที่ “สมดุล”

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอาหาร ในปี 2018 มีการรายงานจากสำนักข่าว CNN เกี่ยวกับร้านอาหารริมทาง หรือ Street Food ที่โด่งดังและมีรสชาติดีเยี่ยม มีร้านอาหารริมทางที่โด่งดังและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาลิ้มลองกันสักครั้ง อีกทั้งพบว่ามีการจัดอันดับและรีวิวโดยหลายสำนักข่าวของจีนเช่น Chinadaily และ JingDaily ชี้ว่า ร้านอาหารริมทางหรือ Street Food ของไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่ พัทยา เป็นแหล่งดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ไข่เจียวปู ราดหน้า ผัดกระเพรา เป็นต้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีอาหารที่แสนจะอร่อยขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องรับประทานแต่พอดี เพราะโภชนาการที่ดีและสมดุล จะช่วยเติมเต็มพลังงานให้ร่างกายทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์

cr.thaiprmatter

หากเราอยากดูดีและรู้สึกดีกับตัวเองที่สุด ก็ต้องรู้ว่าร่างกายเราต้องการสารอาหารแต่ละประเภทในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เพียงโภชนาการ 5 หมู่ที่ดีอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่เท่านั้น แต่เรายังต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ และที่สำคัญต้องกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารอย่างเหมาะสมด้วย ถือว่าเป็นอะไรที่เยอะมากเพราะแม้กระทั่งคนที่ควบคุมอาหารการกินของตนอย่างดีที่สุดก็ยังรู้สึกยากที่จะกินสารอาหารให้ครบทุกประเภทได้ทุกวัน

ซูซาน โบเวอร์แมน
ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาและการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลก (เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น)

แต่ละช่วงวัยความต้องการด้านอาหารย่อมต่างกัน Buddy News ขอเสนอข้อควรปฏิบัติและคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารของแต่ละวัยทุกวัย เพื่อให้คุณก้าวผ่านทุกช่วงอายุไปอย่างสุขภาพดี แข็งแรงสมวัยที่สุด

ช่วงอายุ 20

ดื่มน้ำให้เพียงพอ ตั้งเป้าดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน พกของกินเล่นที่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่นถั่ว เมล็ดธัญพืช ผลไม้แห้ง และผลไม้สดต่างๆ

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับวัย 20 ปี ได้แก่ แคลเซียมและกรดโฟลิก เพราะร่างกายเรายังสามารถสร้างกระดูกได้จนถึงช่วงวัย 20 กลางๆ ได้ แนะนำให้บริโภคแคลเซียมอย่างน้อย 1,000 กรัมต่อวันเพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ แหล่งอาหารชั้นดียกตัวอย่างเช่น โยเกิร์ต นมอัลมอนด์ น้ำข้าวกล้องงอก เต้าหู้ชนิดแข็ง และปลาซาร์ดีน

ช่วงอายุ 30

นับแคลอรี่ให้ดีๆ เพราะในช่วงอายุ 30 เมตาบอลิซึ่มหรือกระบวนการทางเคมีต่างๆในร่างกายจะเริ่มช้าลงเนื่องจากผู้หญิงจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปตั้งแต่ช่วงวัยนี้ ลองเปลี่ยนจากการบริโภคแป้งขัดสี (เช่น ขนมปังขาว และพาสตรี้) มาเป็นธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย น้ำผลไม้สดๆ และน้ำเปล่าแทน

มวลกล้ามเนื้อร่างกายจะลดลงประมาณร้อยละ 5 ในทุกๆ สิบปี เริ่มตั้งแต่ที่เราก้าวเข้าสู่อายุ 30 ดังนั้น เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ เพิ่มการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ (Strength Training) เข้าไปในตารางออกกำลังกายของคุณดู และบริโภคโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ เช่นจาก อกไก่ เนื้อปลา หรือโปรตีนเชค ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปได้

ช่วงอายุ 40

ดูแลสุขภาพหัวใจ คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อใกล้ช่วงวัยหมดประจำเดือน หมั่นดูแลหัวใจของเราด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ โดยแนะนำให้รับประทานผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า รวมทั้งมะเขือเทศ ผักและผลไม้ต่างๆ งดไขมันทรานส์ที่พบในอาหารสำเร็จรูปและอาหารทอดๆ

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับวัยนี้ ได้แก่ วิตามินดีและสารต้านอนุมูลอิสระ รักษาระดับพลังงานร่างกายให้ดี และป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ แหล่งอาหารชั้นดีได้แก่ พริกแดง มะขาม สตรอเบอร์รี่ แครอท มันหวาน ฝรั่ง และถั่วต่างๆ

ช่วงอายุ 50

รับประทานไฟเบอร์ให้มากขึ้น ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไปมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้มากขึ้น ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายให้น้อยลงซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ไฟเบอร์ยังช่วยให้คุณอิ่มได้นานขึ้น ทำให้คุณดูแลควบคุมน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับวัยนี้ ได้แก่ กรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินบี12 รับประทานปลาที่มีไขมันอย่างปลาทูและแซลมอน ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ชนิดEPA และ DHA รวมถึงถั่ววอลนัท เมล็ดเชีย เมล็ดฟักทอง น้ำมันดอกทานตะวัน และผักโขมที่มีกรดแอลฟาไลโปอิค (ALA) สูง ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ประเภทหนึ่งที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลให้น้อยลงได้

ช่วงอายุ 60 และมากกว่านั้น

หมั่นเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอและปรึกษาคุณหมอก่อนหากคิดจะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือฝึกกล้ามเนื้อ ลองรับประทานอาหารใหม่ๆ ให้หลากหลายขึ้นโดยที่ยังคำนึงถึงโภชนาการที่ดี

สารอาหารที่จำเป็นสำหรับวัยนี้ ได้แก่ อาหารที่กล่าวมาทั้งหมด บวกกับโพรไบโอติกส์ (Probiotics) สุขภาพทางเดินอาหารของคนเราจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราอายุมากขึ้น จำนวนแบคทีเรียที่ดีจะลดลงและลำไส้เล็กของเราก็ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีเท่าเดิม เพิ่มโพรไบโอติกส์เพื่อกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียที่ดีเหล่านี้ แหล่งอาหารได้แก่ โยเกิร์ต และอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ

BuddyNews เชื่อว่าสุขภาพที่ดีอยู่ที่การกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งโภชนาการที่ดีและสมดุลจะช่วยเติมเต็มพลังงานให้ร่างกายทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ดี และยังส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้อย่างยืนยาว