นักวิชาการ ม.อ. เตือนภัยทะเลสงขลาเจอแมงกะพรุนหัวขวดมากขึ้น แนะเที่ยวทะเลต้องพกน้ำส้มสายชู

ข้อมูลจากเฟซบุกแฟนเพจ ‘กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง’ ระบุการสำรวจพบแมงกะพรุนหัวขวดหรือบางคนเรียกแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือแมงกะพรุนไฟเรือรบ เป็นแมงกะพรุนพิษในสกุล Physalia ในทุกจังหวัดชายฝั่งทะเล และเริ่มพบบ่อยในจังหวัดสงขลา ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ดร.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง ศูนย์เรียนรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ให้สัมภาษณ์ในรายการแลบ้านแลเมืองสถานีวิทยุ ม.อ.หาดใหญ่ PSUBroadcast พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าทะเลไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเจอแมงกะพรุนชนิดนี้บ่อยขึ้น อาจเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นไฟโตแพลงตอนก์อาหารของของแมงกะพรุน ส่วนประเด็นภาวะโลกรวนนั้นยังไม่มีข้อชี้ชัดชัดเจนว่ามีผลตรงกับจำนวนแมงกะพรุนอย่างไร

นอกจากรายงานการพบในจังหวัดสงขลาแล้ว ยังพบแมงกะพรุนหัวขวดจำนวนมากบริเวณชายหาดใน อ.สายบุรี อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี เมื่อโดนพิษจากแมงกะพรุนจะทำให้เกิดแผลรอยแดงที่ผิวหนังตามความยาวของเส้นหนวด ปวด บวม อาจมีอาการหลอดลมหดเกร็ง หัวใจเต้นเร็วและแรง หากสัมผัสหนวดแมงกะพรุน หนวดจะติดแน่นบริเวณผิวหนัง อ.ศักดิ์อนันต์ แนะนำให้รีบใช้เศษไม้ กิ่งไม้ หรือบัตรเครดิต พลาสติก รูดและสะบัดออกให้เร็ว อย่าใช้มือปาดเพราะมืออาจสัมผัสพิษ หลังจากนั้นราดแผลด้วยน้ำส้มสายชู ไม่ควรใช้น้ำจืดหรือน้ำทะเลล้าง ระหว่างนั้นรีบโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนฉุกเฉิน 1669

หรือหากมีไลฟ์การ์ดในบริเวณให้รีบขอความช่วยเหลือทันที อ.ศักดิ์อนันต์ เสริมว่าแม้แต่การแต่งกายมิดชิดเล่นน้ำทะเลก็อาจยังไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเคยมีนักท่องเที่ยวที่สวมเสื้อผ้ามิดชิดหรือบอดี้สูทก็ยังโดนพิษจากแมงกะพรุน ดังนั้นความตระหนักว่าการเที่ยวทะเลในหน้าร้อนโดยเฉพาะจังหวัดสงขลาในเดือนมีนาคมต้องระวังว่า อาจเจอแมงกะพรุนหัวขวด แม้แต่ซากแมงกะพรุนหัวขวดก็ยังมีพิษ จากข้อมูลที่มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลแล้วบอกว่าโดนแตนทะเลนั้น จริงๆแล้วแตนทะเลไม่มีตัวตน แต่คือเศษหนวดเส้นเล็กๆของแมงกะพรุนที่ล่องลอยอยู่ในน้ำ เป็นเหมือนเข็มที่เรามองไม่เห็น หากสัมผัสแล้วจะมีอาการแสบและคันอย่างมาก

นอกจากนี้ อ.ศักดิ์อนันต์ ยังแสดงความเห็นว่าภาครัฐ ท้องถิ่น หน่วยงานด้านสาธารณสุขมีส่วนสำคัญที่ต้องร่วมมือป้องกันเรื่องนี้ ต้องรีบทำเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง ต้องมีเสาน้ำส้มสายชูประจำชายหาดที่เสี่ยง หรือเมื่อไปเที่ยวทะเลควรพกน้ำส้มสายชูไปด้วยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้ประชาชน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ต้องมีความรู้และเข้าใจเรื่องนี้ด้วย

ภาพ:กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *