80% ของขยะทะเลมาจากแผ่นดิน

ขยะที่เห็นอยู่ทุกวันนี้เกิดมนุษย์ทั้งสิ้น ภาพที่เห็นทั่วไปตามชายหาดชายฝั่ง ขยะจำนวนมากถูกคลื่นซัดพัดพาขึ้นมาในยามเช้า และถูกพัดกลับลงไปในทะเล อีกครั้ง ก่อนจะถูกคลื่นซัดพัดกลับขึ้นมากองบนฝั่งอีกครั้ง เป็นวัฏจักรหมุนเวียนไปเช่นนี้อย่างไม่มีวันจบสิ้น และมีแนวโน้มว่าขยะจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในช่วงเวลาที่ชายหาดสวยงามสะอาดตา แต่ภายใต้ท้องทะเลแห่งนั้นมีขยะนานาประเภทล่องลอยอยู่มากเพียงใด และขยะเหล่านั้นมันได้สร้างความเสียหายกับระบบนิเวศวิทยาใต้ท้องทะเลไปมากแค่ไหน

จากสถานการณ์ขยะทะเลที่น่าเป็นห่วงยิ่งนักในปัจจุบันทั่วโลก พยายามรณรงค์และการลงมือทำความสะอาดขยะเหล่านี้ ทั้งบนบกและใต้ท้องทะเล แต่ขยะเหล่านี้มันจะไม่มีทางลดลงไปได้เลย หากมนุษย์เรายังมองไม่เห็นความสำคัญของการจัดเก็บขยะให้เป็นที่เป็นทาง ขยะจากครัวเรือนและแหล่งต่างๆ จาก 1 เป็น 2 เป็นสิบ เป็นร้อย เป็นล้านๆ ชิ้น ไหลลงสู่ทะเล ซึ่งไม่รู้ว่าท้องทะเลได้แบกรับภาระขยะพวกนี้มานานแค่ไหนแล้ว ก่อนที่จะพัดกลับขึ้นมาให้เราเห็นเป็นภาพชัดเจนเช่นที่เราได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้

สำหรับมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์บกใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนพื้นดิน คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงความเลวร้ายของขยะเหล่านี้ เหมือนกับสัตว์ทะเลที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับขยะที่ล่องลอยปะปนอยู่ในระบบนิเวศทางทะเล ที่โชคร้ายกว่านั้นก็คือสัตว์ทะเลไม่สามารถแยกขยะออกจากอาหารของพวกมันได้ และสัตว์ทะเลโชคร้ายหลายตัวก็ได้กินขยะเหล่านั้นเข้าไป จนเป็นเหตุให้ต้องตายไปตามที่เราได้เห็นในข่าวอยู่เสมอ

นักวิทยาศาสตร์คาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ภายในปี 2050 ในมหาสมุทรจะมีขยะพลาสติกน้ำหนักรวมกันมากกว่าปลา พลาสติกสลายเป็นไมโครและนาโนพลาสติก เข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และปนเปื้อนเกลือ ซึ่งไม่มีใครหลีกเลี่ยงการกินเกลือจากทะเลได้ ทางองค์การอนามัยโลกเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากไมโครพลาสติกปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย เราไม่ใช่แค่กำลังฆ่าวาฬ แต่เรากำลังสร้างปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้กับตัวเราและลูกหลานเรา จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการใดเก็บขยะจากทะเลหรือทำความสะอาดมหาสมุทรอย่างเห็นผลชัดเจนได้

ขอบคุณข้อมูล : เพจ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

และ Thon Thamrongnawasawat