สยามอะโกรวิลล์ บริษัทร่วมทุนไทย-มาเลเซีย ผนึกกำลังกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ ชูนวัตกรรมฟาร์มโซลูชั่น ขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยปลอดภัยอย่างยั่งยืน

บริษัท สยามอะโกรวิลล์ จำกัด ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ จัด “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การดำเนินกิจกรรมวิจัยและพัฒนาการทำเกษตรแบบแม่นยำ” ในวันที่
27 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30-11.30 น. ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ จ.สงขลา โดยมี ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ กล่าวต้อนรับ และคุณสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวแสดงความยินดี

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ ประกอบด้วย ความร่วมมือระหว่างบริษัท สยามอะโกรวิลล์ จำกัด กับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ เพื่อศึกษาวิจัยต่อยอดเทคโนโลยีการ
จัดการเกษตรสมัยใหม่และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าเกษตร เพื่อตอบสนองโอกาสทางธุรกิจด้วยความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private Partnership) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเกษตรปลอดภัยและยั่งยืนในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ และความร่วมมือระหว่างบริษัท สยามอะโกรวิลล์ จำกัด กับ บริษัท แพลนท์คาร์ทิจด์ จำกัด และ บริษัท แคลทิเวียท จำกัด จากประเทศมาเลเซีย

บริษัท สยามอะโกรวิลล์ จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติภาคการเกษตรของไทยให้ทันสมัยและได้มาตรฐาน ภายใต้การร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศมาเลเซีย โดยมีวิสัยทัศน์สำคัญในการประยุกต์องค์ความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่สู่การยกระดับภาคเกษตรไทยเพื่อความยั่งยืน เป้าหมายของธุรกิจ คือ การเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าของภาคการเกษตรจากตลาดสู่การผลิต โดยการใช้โมเดลธุรกิจของสตาร์ทอัพ บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาฟาร์มโซลูชั่น เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดผลกำไรให้กับภาคการเกษตรทั่วประเทศ โดยบริษัทมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดในการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ เสาะหาความต้องการ รวมถึงพัฒนาโมเดลการลงทุนฟาร์มที่เหมาะสม พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาฟาร์มที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางฟาร์มเกษตรปลอดภัยแบบยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกพืชหมุนเวียน การจัดการน้ำ และการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน เพื่อตอบสนองความต้องการผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนการรักษาสมดุลของระบบนิเวศในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทยังยึดหลักการเกษตรปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ว่าผลผลิตที่เกิดขึ้นจากระบบการจัดการฟาร์มของบริษัทนั้น จะเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและปลอดภัย ไม่มีสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ใช้พลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันให้เกิดการเกษตรปลอดภัยอย่างยั่งยืน

ในการนี้ บริษัทฯ จึงได้ผนึกกำลังและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการพัฒนาองค์ความรู้การประยุกต์ใช้ฟาร์มโซลูชั่นกับพืชอาหารและพืชสมุนไพรท้องถิ่นของประเทศไทย การวิจัยต่อยอดเทคโนโลยีด้านการจัดการเกษตรสมัยใหม่และการยกระดับศักยภาพพื้นที่ด้วยนวัตกรรมการผลิตสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่มูลค่าอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อาทิ การปลูกผักสั่งตัด การปลูกพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพให้สาระสำคัญสูง เป็นต้น โดยบริษัทจะสร้างระบบฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นพื้นที่แปลงสาธิตและวิจัยพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่าง ๆ บนพื้นที่กว่า 2.5 ไร่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ นอกจากนี้ ฟาร์มดังกล่าวถือได้ว่าเป็นฟาร์มแห่งแรกในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถทำการเกษตรแบบแม่นยำด้วยนวัตกรรมจากทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ควบคู่กับการใช้พลังงานสะอาด สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย

บริษัท สยามอะโกรวิลล์ จำกัด เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า แนวทางเกษตรปลอดภัยและยั่งยืนนี้จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำเศรษฐกิจเอเชียภายใต้โมเดล BCG (Bio-Circular-Green Economy) ในที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *