เสวนา ‘หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม’ ครั้งที่ 16 ต่อยอดความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม พัฒนาระบบเตือนภัยและบรรเทาเหตุ

นับหนึ่ง เตรียมความพร้อมรับมือน้ำปลายปี 2568 – เสวนา ‘หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม’ ครั้งที่ 16 ต่อยอดความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม พัฒนาระบบเตือนภัย บรรเทาเหตุ ด้านศูนย์วิจัยภัยพิบัติ ม.อ. เปิดตัวระบบคาดการณ์ปริมาณน้ำ ช่วยประเมินทิศทางประกอบการวางนโยบาย

วันนี้ (17 ตุลาคม 2568) ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ณ ห้องประชุมสราญรมย์ โรงแรมนิวซีซัน สแควร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์วิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติภาคใต้ และ สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคประชาสังคม จัดงานเสวนา ‘หาดใหญ่เข้มแข็ง สู้ภัยน้ำท่วม’ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568 ในหัวข้อ ‘ข้อมูลคือพลัง เทคโนโลยีคือเครื่องมือ ชุมชนคือหัวใจ เพื่อรับมือและพลิกวิกฤตน้ำท่วม’ ซึ่งมี นายจิรวัฒน์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.แหลมทอง ชื่นชม ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่าการจัดงานเสวนา ‘หาดใหญ่เข้มแข็ง’ นี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน ด้วยความร่วมมือและสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างความร่วมมือพัฒนา ‘หาดใหญ่โมเดล’ พัฒนาระบบเตือนภัยน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ สนับสนุนระบบบ้านพี่เลี้ยงหากเกิดเหตุน้ำท่วม จนถึงการทำงานร่วมกับพื้นที่ชุมชนจุดเสี่ยง

รศ.ดร.แหลมทองกล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ภาคใต้ในปี พ.ศ. 2567 ส่งผลต่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงมีความจำเป็นที่ต้องจัดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการบริหารจัดการสถานการณ์ในสถานการณ์ภัยพิบัติ เพื่อร่วมสร้างเวทีแลกเปลี่ยน และความร่วมมือในพื้นที่เมืองหาดใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ และบรรเทาผลกระทบและป้องกันความสูญเสียจากเหตุภัยพิบัติ

ศูนย์วิจัยภัยพิบัติฯ ม.อ. เปิดตัวระบบคาดการณ์ปริมาณน้ำจากฝน ประกอบการประเมินแจ้งเตือนภัย

ด้าน ดร.เจษฎา ศรีสกุลชัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวถึงการพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (Machine Learning) ด้วยการประมวลข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง กรมอุตุนิยมวิทยา เรดาห์ตรวจอากาศ จนถึงข้อมูลระดับปริมาณน้ำตามพื้นที่โครงการของกรมชลประทาน เพื่อคาดการณ์ปริมาณน้ำและระดับน้ำจากฝน รวมถึงข้อมูลสภาพอากาศ เช่น อุณหภูมิ ความเร็วลมที่สัมพันธ์กับความชื้นและโอกาสการเกิดฝน เป็นต้น

ดร.เจษฎากล่าวว่าการพัฒนาระบบนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเครื่องมือเสริมในการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับคณะกรรมการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำที่จะส่งผลต่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

“แนวคิดหลักคือการป้อนข้อมูล สถิติในอดีต เพื่อให้เรียนรู้และสามารถคาดการณ์ปรากฎการณ์และเป็นเครื่องมือเสริม เพื่อประกอบการวางแผนเสนอนโยบายและการเตือนภัย” ดร.เจษฎากล่าว

เรื่องและภาพ: กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *