ใส่ใจลูกรัก รู้เท่าทัน “โรคคาวาซากิ” (KAWASAKI DISEASE)

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก็มีรายงานว่าในยุโรปและสหรัฐอเมริกาพบเด็กป่วยด้วยอาการผิดปกติเกี่ยวกับภูมิต้านทานที่เชื่อมโยงกับโควิด-19 เพิ่มขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนี้ มี 3 คน อยู่ในนิวยอร์ค 1 คนพบที่ฝรั่งเศส และ 1 คนจาก อังกฤษ  ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้แจ้งแพทย์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อในเด็กโดยอาจมีความเกี่ยวโยงกับโรคโควิด-19

“โรคคาวาซากิ เป็นโรคที่เกิดการอักเสบของหลอดเลือดเฉียบพลัน มีอาการกับหลายระบบในร่างกาย โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจอักเสบจะทำให้มีอาการโป่งพองนำไปสู่การตีบตัน อุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการที่พบมีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียสต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 วัน ริมฝีปากแห้งแตก บวมแดง ลิ้นสีแดง รวมถึงมีตาแดง แต่ไม่มีขี้ตา มือเท้าบวม และมักมีผิวหนังที่ฝ่ามือฝ่าเท้าลอก ผื่นแดงตามลำตัว และต่อมน้ำเหลืองโตที่ลำคอ”

ผศ.พญ.สุภาพร โรยมณี
หน่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด  ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ 
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ด้านกรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า “ขอให้ความมั่นใจกับผู้ปกครอง ไม่ต้องกังวลกับข่าวที่พบมีรายงานการเกิดโรคหลอดเลือดอักเสบ หรือ กลุ่มอาการคล้ายคาวาซากิที่อาจจะสัมพันธ์กับการติดเชื้อโควิด – 19ในเด็กที่พบในประเทศตะวันตก โดยอาการที่พบจะเป็นอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องร่วมกับหัวใจอักเสบ และมีภาวะช็อก เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด และในภูมิภาคเอเชียยังไม่พบมีจำนวนผู้ป่วยเด็กที่มีอาการเหล่านี้มากขึ้นแต่อย่างใด”

แม้ว่าการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย แต่ถ้าหากเด็กมีอาการที่น่าสงสัยคือ ไข้สูงหลายวัน มีผื่นผิวหนัง มีอาการทางเดินอาหารคลื่นไส้ อาเจียน ซึม ผิดสังเกต รีบพบแพทย์ทันที

ขณะนี้องค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างการศึกษาความเชื่อมโยงของโควิด19และโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า การอักเสบของอวัยวะหลายระบบเกี่ยวกับโควิด19 ทำให้อาการรุนแรงถึงขั้นเข้าไอซียู และอาการหลายอย่างคล้ายโรคคาวาซากิ และอาการท็อกซิกช็อกซินโดรม ดังนั้นจึงต้องรีบทำการศึกษาวิเคราะห์ต่อไป