เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาสนใจการกินมังสวิรัติ หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า ‘กินมังฯ’ เพราะนอกจากจะเป็นวิถีที่ไม่เบียดเบียนสัตว์ อ่อนโยนต่อโลกแล้ว การกินมังฯ มีส่วนช่วยให้สุขภาพดีอีกด้วย
วิถีการกินมังฯ ก้าวไปไกลจากจุดเริ่มต้นมาก ไม่ได้มีแค่การห้ามกินเนื้อทุกชนิด ล่าสุดจึงเกิดวิถีทางเลือกกินมังฯ ที่สามารถดูแลโลก ดูแลร่างกาย แบบไม่เคร่งครัดมากเกินไปที่มีชื่อเรียกว่า Flexitarian หรือการกินมังแบบยืดหยุ่นแบบใหม่ ซึ่งนิยมไปทั่วโลก รวมทั้งบ้านเราด้วยนั่นเอง
มังสวิรัติคืออะไร ยืดหยุ่นได้แค่ไหนถึงยังเป็นมังฯ ??
ก่อนจะพูดถึง Flexitarian เรามารู้จักมังสวิรัติหรือ Vegetarian แบบดั้งเดิมกันก่อน มังสวิรัติคือวิถีการกินที่มีมาตั้งแต่ยุคอินเดียและกรีกโบราณ โดยถือคติการกินที่ละเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์ (มังสะ แปลว่า เนื้อสัตว์ ส่วน วิรัติ แปลว่า ปราศจากความยินดี ไม่ยินดี) คนที่กินมังสวิรัติจึงหมายถึงผู้ที่ไม่ยินดีในการกินเนื้อสัตว์
คนที่กินมังสวิรัติจะต้องปฏิเสธการกินอาหารที่ทำมาจากส่วนประกอบทั้งทางตรงและทางอ้อมของสัตว์ เช่น นม ชีส ไข่ น้ำผึ้งไปจนถึงเจลาติน แต่อย่าสับสนระหว่าง Vegetarian กับ Vegan เพราะ Vegan ไม่ใช่แค่วิถีการกินแต่ถือว่าเป็นวิถีชีวิตที่เชื่อว่าสัตว์เองก็มีสิทธิในตัวเขา ชาววีแกนจึงปฏิเสธทั้งอาหารไปถึงการใช้เครื่องอุปโภคที่ได้มาจากสัตว์หรือมีการทดลองจากสัตว์ด้วย
การกินมังสวิรัตินั้นถือว่าค่อยๆได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แต่ถึงอย่างนั้นการกินมังสวิรัติอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องได้ยากในคนส่วนใหญ่ มีผลสำรวจจาก Humane Research Council ที่รายงานว่าคนกินมังสวิรัติทั้งแบบ Vegetarian และ Vegan มากถึง 84% กลับไปกินเนื้อสัตว์หลังจากที่พยายามเลิกกิน แล้วมีคนที่เคยกินมังสวิรัติมากถึง 43% บอกว่าการกินมังสวิรัติแท้ๆ ต่อไปเป็นเรื่องไม่อาจทำได้ต่อเนื่องอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน เทรนด์ของการกินมังสวิรัตินั้นไม่ได้อิงกับศาสนาความเชื่ออีกต่อไปแล้ว บางคนแค่อยากเปลี่ยนมาทานมังสวิรัติเพราะเหตุผลทางสุขภาพ หรืออาจจะเพราะไม่อยากสนับสนุนการทำอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดมังสวิรัติสายยืดหยุ่นอีกหลายแบบที่ช่วยให้คนกินมังฯ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น มังสวิรัตินม (Lacto vegetarian) รับประทานนม แต่งดไข่ มังสวิรัติไข่ (Ovo vegetarian) รับประทานไข่ แต่ไม่ดื่มนม มังสวิรัติปลา (Pesco vegetarian) เป็นกลุ่มมังสวิรัติที่บริโภคปลาและอาหารทะเล และ กลุ่มกึ่งมังสวิรัติ (Semi vegetarian) งดการรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู แต่ยังรับประทานเนื้อปลา ไก่ ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ต่าง ๆ ซึ่ง Flexitarian เองก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของ Semi-vegetarian นั้นเอง
คำว่า Flexitarian ถือว่าเป็นศัพท์บัญญัติใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มลงใน Oxford English Dictionary ตอนปี 2014 โดยที่ Dawn Jackson Blatner ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับ Flexitarian Diet เล่มแรกได้ให้คำนิยามของวิถีการกินนี้ไว้ว่า “คุณสามารถเรียกมันว่าการกินแบบ ‘เกือบจะมังสวิรัติ’ ก็ได้ เพราะนี่คือวิถีการกินที่คุณยังสามารถได้รับประโยชน์ของการกินอาหารแบบมังสวิรัติ ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มโปรตีนจากเนื้อสัตว์ในบางโอกาส”
มือใหม่หัดกิน Flexitarian อย่างไรดี ?
สำหรับชาวกินเนื้อที่สนใจอยากหันมากิน Flexitarian เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพราะหลักการกินมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นนี้ไม่มีกฏตายตัว แต่ยึดหลักง่ายๆ คือกินเนื้อให้น้อยเข้าไว้ โดยยังส่วนใหญ่จะกินเนื้อไม่เกิน 3 มื้อต่อสัปดาห์และเราสามารถเลือกทานอาหารให้ได้รับสารอาหารแบบสมดุล ดังนี้
- กินอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งก็คือข้าว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวฮาง ข้าวกล้องงอก
- กินอาหารที่ให้เกลือแร่และวิตามิน ได้แก่ ผัก โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักที่มีสีเหลือง ถึงผลไม้ต่างๆ
- กินอาหารที่ให้สารอาหารโปรตีน ซึ่งโปรตีนจากพืชสามารถหาได้ในถั่วประเภทต่างๆ และในบางมื้ออาจมีถั่วเปลือกแข็งด้วยเพื่อเพิ่มโปรตีนและไขมันที่ดี
- เสริมด้วยโปรตีนจากสัตว์บางมื้อ โดยเน้นปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ นม โยเกิร์ต
ขอบคุณข้อมูล : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)