Buddy News : ดูดาวกันเถอะ

ทุกๆ ครั้งที่เราแหงนมองดูท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งปราศจากเมฆหมอกมาบดบัง  เราจะมองเห็นหมู่ดวงดาวน้อยใหญ่ส่องแสงแวววาวระยิบระยับอยู่เต็มฟากฟ้า ซึ่งทำให้ท้องฟ้าดูเหมือนมีชีวิตและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เบิกบาน อบอุ่น และคลายความทุกข์กังวลได้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน การดูดาวเนี่ยมีประโยชน์มาตั้งแต่อดีตกาลแล้วนะคะ เพราะมนุษย์ใช้ประโยชน์จากการดูดาวมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลโดยสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนจนเราอาจมองไม่เห็นความสำคัญของดวงดาวอีกต่อไป แต่แท้จริงแล้วดวงดาวยังมีความลึกลับให้ศึกษาค้นคว้าอีกมากมาย

โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่สูงขึ้นช่วยให้มนุษย์เราศึกษาเรื่องราวของดวงดาวอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นดวงดาวยังคงยังประโยชน์แก่มนุษยชาติไปอีกนานเท่านาน เพราะดวงดาวในอวกาศคือห้องปฏิบัติการในธรรมชาติซึ่งไม่อาจสร้างขึ้นได้ในโลก การศึกษาดวงดาวเท่านั้นจึงจะช่วยให้เราเข้าใจโลกและตัวเราได้มากขึ้นอีกด้วย

วิธีการดูดาวสำหรับผู้เริ่มต้น

สำหรับผู้ที่สนใจ เรื่องบนฟ้า อยากดูดาว อยากรู้จักกลุ่มดาว ใฝ่ฝันอยากจะไปนั่งนับดาวอยู่บนยอดดอย วิวสวยๆ อากาศหนาวๆ แค่คิดก็มีความสุข  แต่ติดอยู่นิดหนึ่งตรงที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูดาว และที่สำคัญ ไม่มีทุนทรัพย์ ตามประสาคนหัวอกเดียวกัน เว็บไซต์ของเราได้รวบรวมทุกหนทางที่จะสามารถดูดาวแบบผู้มีภูมิได้  โดยไม่ต้องปัจจัยข้างต้น ซึ่งในขั้นแรกคือ การหาตำแหน่งดาวเหนือ ดาวเหนือเป็นดาวดวงเดียวที่ปรากฏอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ไปไหน อย่างไรก็ตามดาวเหนือมีความสว่างไม่มาก และอยู่สูงเหนือเส้นขอบฟ้าไม่มาก เมื่อมองดูที่ประเทศไทย

ในบางครั้งเรามองหาดาวเหนือได้จากการดู “กลุ่มดาวหมีใหญ่” หรือที่คนไทยเราเรียกว่า “กลุ่มดาวจระเข้” กลุ่มดาวนี้มีดาวสว่างเจ็ดดวง เรียงตัวเป็นรูปกระบวยตักน้ำ ดาวสองดวงแรกของกระบวยตักน้ำ จะชี้ไปยังดาวเหนือเสมอ ไม่ว่าทรงกลมท้องฟ้าจะหมุนไปอย่างไรก็ตาม ดาวเหนือจะอยู่ห่างออกไป 4 เท่าของระยะทางระหว่างดาวสองดวงแรกเสมอ

cr.imuseumbtd

ขั้นต่อมาวิธีคลาสสิคก็คงไม่พ้นแผนที่ดาว แต่สมัยนี้แผนที่ดาวเราดูกันง่ายมากๆจากแอปพลิเคชั่นนั่นเอง เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นดูดาวเยอะมากเลย Buddy News เลยหยิบ แอปพลิเคชั่นน่าสนมาฝากกันค่ะ

1.Star Chart  แอปพลิเคชั่นดูดาวแบบง่ายๆ ดูดาวบนท้องฟ้า เห็น ตำแหน่งดาวจริง

สำหรับแอปพลิเคชันนี้มีชื่อว่า แอป Star Chart เป็นแอปฯ ที่จะมาทำให้การดูดาวบนท้องฟ้า ที่คุณเห็นมีเยอะแยะมากมายนั้น เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่อาศัยอยู่ในแถบชนบท จะเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนได้ง่ายกว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง เพราะไม่มีแสงไฟมารบกวนแสงดาว แต่การดูดาวนั้นก็ท้าทายและค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ที่อยากดูดาวบนท้องฟ้า ทั้งในเรื่องของการเรียนรู้วิธีการใช้แผนที่ดวงดาว และการเรียนรู้จดจำชื่อดวงดาวหรือกลุ่มดาวต่างๆ

แอปพลิเคชั่น Star Chart ตัวนี้จะทำให้การดูดาวของคุณง่ายขึ้นมากๆ ด้วยการอาศัยเซ็นเซอร์ GPS และเข็มทิศที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนของคุณ ทำให้สามารถแสดงตำแหน่ง และชื่อของดวงดาวต่างๆ ที่ปรากฏบนท้องฟ้าได้ในแบบเสมือนจริง แถมยังสามารถแสดงภาพเสมือนของกลุ่มดาวจักรราศีที่ดูสวยงามได้อีกด้วย สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับดวงดาวที่น่าสนใจ เช่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง หรือระยะทางจากโลก เป็นต้น แอปฯ นี้จะทำให้การดูดาวของคุณสนุก และมีความหมายขึ้นอีกเยอะเลย

และยังมีแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมมาฝากกันค่ะ ซึ่งลักษณะการใช้งานแทบจะคล้ายกันเลยนะคะอย่างแอปพลิเคชั่น Star Walk ที่ช่วยให้การดูดาวของเราสนุกและสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยแผนที่ของดวงดาวหรือกลุ่มดาวต่างๆ ที่สามารถนำไปอ้างอิงเพื่อเป็นคู่มือในการดูดาวได้จริง ตลอดจนมีการแสดงโมเดลของกลุ่มดาวต่างๆ เป็นแบบสามมิติอีกด้วย และอีกแอพที่น่าสนใจเช่นเดียวกันเพราะเราสามารถดูแบบ AR ได้ด้วยค่ะ นั่นคือ แอปพลิเคชั่น  SkyView : แอปดูดาวแบบ AR , ใช้กล้องมือถือส่องไปบนฟ้า แล้วจะเห็นดาวแบบ 3D ผ่านกล้องมือถือของเรา ซึ่งจะช่วยให้การดูดาวบนท้องฟ้านั้นสนุก และง่ายมากกว่าเดิม หลักการดูดาวด้วยแอป SkyView ก็ไม่ยากค่ะ เพียงเปิดแอป เลือกตำแหน่งหรือเมืองที่เรายืนอยู่ จากนั้นแอปจะเปิดกล้องมือถือของเรา เราสามารถนำกล้องนี้ส่องขึ้นไปบนท้องฟ้าตามทิศต่างๆ ตัวแอปก็จะทำการเทียบทิศที่กล้องเราหันไปแล้วแสดงผลดาวต่างๆ ออกมาในรูปแบบสามมิติ พร้อมข้อมูลเสริมให้ได้ค้นคว้าต่ออีกด้วย

เพิ่มเติมความรู้ทั่วไปสำหรับผู้เริ่มต้นดูดาว

  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดูดาว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอยู่ระหว่างเดือน พฤศจิกายน – มกราคม หลังจากนี้ไปจนถึงก่อนสงกรานต์ ท้องฟ้าก็ยังโปร่งไม่มีเมฆ แต่จะมีหมอกแดด ซึ่งเกิดจากการเผาป่า และไร่ หลังจากสงกรานต์เป็นต้นไปเป็นช่วงฤดูฝน ฟ้าเปิดเป็นหย่อม ๆ ดูดาวได้บ้างเป็นบางส่วน แต่จะมีเมฆผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สะดวกต่อการดูเป็นกลุ่มดาว อย่างไรก็ตามหลังจากฝนตก ถ้าไม่มีเมฆแผ่น ท้องฟ้าจะใสมาก เพราะน้ำฝนชะล้างฝุ่นในบรรยากาศลงมาหมด
  • สถานที่ อุปสรรคที่สำคัญของการดูดาวคือ แสงรบกวน สถานที่ที่เหมาะสมกับการดูดาว ควรจะอยู่ในชนบท ภูเขา หรือชายทะเล ควรออกห่างจากเมืองใหญ่ บริเวณที่จะทำกิจกรรม ควรเป็นที่โล่งกว้าง มองเห็นขอบฟ้าได้ทุกด้าน โดยเฉพาะด้านทิศเหนือ ในการจัดที่นั่งเป็นหมู่คณะ ควรให้ผู้ชมหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพื่อให้สามารถสังเกตการเคลื่อนที่ของทรงกลมท้องฟ้า จากทิศตะวันออก ไปยังทิศตะวันตก (การหมุนรอบตัวเองของโลก) แต่หากมีข้อจำกัดด้านทิศเหนือ ให้เลือกหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อที่ผู้ชมจะได้เห็นกลุ่มดาวเคลื่อนที่ขึ้นมาตรงหน้า และข้ามศีรษะไปตกด้านหลัง
  • การวางแผน การจัดกิจกรรมดูดาวที่ดีต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ว่าคืนนั้นจะมีอะไรให้ชม ดวงจันทร์ขึ้น-ตกเวลาใด ช่วงหัวค่ำมีดาวเคราะห์ หรือ เทห์วัตถุที่น่าสนใจอะไรบ้าง ช่วงก่อนรุ่งเช้ามีเทห์วัตถุใด ที่คุ้มค่าต่อการตื่นขึ้นมาดูบ้าง จงพยายามหลีกเลี่ยงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เพราะดวงจันทร์จะขึ้นทันทีหลังจากดวงอาทิตย์ขึ้น และตกตอนรุ่งเช้าเมื่อฟ้าสาง ฉะนั้นคืนทั้งคืนจะเต็มไปด้วยแสงจันทร์ บดบังทางช้างเผือก กาแล็กซี และเนบิวลาทั้งหลาย

        การดูดาวไม่จำเป็นต้องเป็นคืนเดือนแรม 15 ค่ำ เพราะผู้ชมส่วนมากไม่เคยเห็นดวงจันทร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ และดวงจันทร์ก็มิได้สว่างตลอดทั้งคืน ในช่วงข้างขึ้น ดวงจันทร์จะปรากฏให้เห็นตอนเย็น ดวงจันทร์จะขึ้นช้าไปวันละประมาณ 50 นาที และจะขึ้นประมาณหกโมงเย็นพอดี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ส่วนช่วงข้างแรม ดวงจันทร์จะปรากฏให้เห็นในตอนเช้า