ฟ้าทะลายโจร เลือกให้เป็น ใช้ให้ถูก กระบวนการผลิตต้องได้มาตรฐาน

ฟ้าทะลายโจร พืชสมุนไพรได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (บัญชียาจากสมุนไพร) กระทรวงสาธารณสุข ในรูปแบบยาเดี่ยว ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) เป็นสารสำคัญมีฤทธิ์ฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัว โดยฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นมีสรรพคุณรักษาอาการไข้หวัด แก้ไอ และเจ็บคอ สามารถเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามต้องเลือกซื้อจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนำ เนื่องจากหากทานไม่ถูกวิธีสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ และสินค้าต้องมีมาตรฐาน GMP ปราศจากสิ่งปนเปื้อน เช่น ตะกั่ว สารหนู หรือยาฆ่าแมลง เป็นต้น

การบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด โดยใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้ม แนะนำให้รับประทานฟ้าทะลายโจร ต้องได้รับสารสำคัญ total lactone โดยคํานวณเป็น สารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) ประมาณ 60-120 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งต้องกินมื้อละ 3-4 เม็ด 4 มื้อ/วัน ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน หยุด 2 วัน ไม่ควรใช้เป็นเวลานาน ต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือน เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็น ในบางรายระหว่างที่กินหากมีอาการมือ-เท้าเย็นควรหยุดทันที

เภสัชกรสมพงษ์ อภิรมย์รักษ์
ประธานคณะบริหาร และรองประธานพิเศษชมรมเภสัชกรภาคใต้
ละที่ปรึกษาชมรมเภสัชกรชุมชน จ.สงขลา

เภสัชกรสมพงษ์ อภิรมย์รักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 1997 ประเทศจีน มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาอาการไข้หวัดในเด็กระดับมัธยม โดยการให้กินฟ้าทะลายโจรแบบไม่ได้สกัด เป็นระยะเวลา 3 เดือน ผลปรากฏว่าในเดือนแรกไม่เห็นความแตกต่าง แต่เมื่อทำการศึกษาต่ออีก 3 เดือน ผลพบว่ามีความต่างกันที่ดีเป็นเท่าตัว โดยสรุปคือฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อห้ามสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ ไข้สูง ไข้เลือดออก โรคตับ โรคไต ห้ามผู้ที่ทานยาบางประเภท เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดความดันบางตัว

“บางรายกินฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร เวียนศรีษะ ลมพิษ นั่นคือผลข้างเคียง ส่วนอาการแพ้จะมีอาการมือ เท้าบวม แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ควรหยุดกินและรีบพบแพทย์ทันที”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *