การจัดการศพผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องที่หน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั่วประเทศให้ความสำคัญตระหนักถึงความปลอดภัยทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตาม พรบ.โรคติดต่อ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
นพ.วิระชัย สมัย รักษาการหัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ กล่าวถึงการจัดการศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าถึงแม้ว่าจังหวัดสงขลาจะยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 แต่โรงพยาบาลสงลานครินทร์มีประสบการณ์การจัดการศพจากผู้ป่วย PUI ที่เข้าข่ายเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งมีหลักปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 หากมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องใส่ชุด PPE สวมถุงมือ หน้ากากอนามัย Face Shield แว่นตา และรองเท้าบูธ เพื่อป้องกันสัมผัสโดยตรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังพยายามไม่กระทำให้สารน้ำ สารคัดหลั่งออกมาจากร่างกาย จัดการนำศพบรรจุถุงซิป จำนวน 2 ชั้น ที่มีความหนาในระดับที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ที่สำคัญต้องราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นนำเทปกาวขนาดใหญ่ปิดที่ซิปอีกครั้ง และชั้นสุดท้ายบรรจุในถุงที่มีความหนาพิเศษ ทำการปิดปากถุงอย่างมิดชิด โดยทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรค จะดำเนินการเคลื่อนย้ายศพไปเผาหรือฝังทันที
โดยสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยวิธีการจัดการการศพผู้เสียชีวิต กรณีผู้ป่วยโควิด-19 มีแนวทางจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้
- เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิตสารคัดหลั่งที่อยู่ในศพยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้
- ควบคุมสารคัดหลั่งโดยเก็บศพไว้ในถุงซิปกันน้ำอย่างน้อยสองชั้นและใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทาด้านนอกถุงเก็บศพ
- ห้ามเปิดถุงเก็บศพโดยเด็ดขาด ไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยารักษาศพ
- บรรจุศพพร้อมถุงลงในโลงศพ และปิดฝาโลงให้สนิท ญาติสามารถนำศพไปทำพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย
- การเผาหรือฝังศพจะไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ
ทั้งนี้มีข้อแนะนำสำหรับญาติและผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ งดขั้นตอนพิธีกรรมทางศาสนาที่ต้องเปิดถุงบรรจุศพหรือสัมผัสกับศพโดยตรง และควรจัดการพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ให้เรียบร้อยภายใน 24 ชั่วโมง สามารถเผาหรือฝัง โดยห้ามเปิดถุงบรรจุศพในทุกกรณี