Work from home syndrome ทำงานอย่างไรไม่ให้ป่วย

หลายคนยังคงต้อง Work from home และมีบางส่วนเริ่มกลับมาทำงานที่ออฟฟิศกันบ้างแล้ว การต้องทำงานที่บ้านมาสักระยะ อาจประสบปัญหาปวด เมื่อย คอ บ่า ไหล่ หลัง หรือเอว บางครั้งอาจมึนศีรษะ สายตาพร่าเบลอจากการจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือมีอาการ มือชา เกร็ง นิ้วล็อก จากการจับเมาส์ หรือ chat ผ่านมือถือเป็นเวลานานๆ ทั้งหมดนี้คืออาการที่เรียกว่า Office Syndrome หรือ Work from Home Syndrome


ไม่ว่าจะมีอาการ Office Syndrome หรือ Work from Home Syndrome ล้วนเกิดจากพฤติกรรมในการทำงานทั้งสิ้น มาดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้

  • ปรับสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงาน ปรับแสงสว่างให้พอดี หรือหาต้นไม้เล็กๆ จัดวางให้โต๊ะทำงานดูมีชีวิตชีวาและเพื่อความผ่อนคลาย
  • จัดอุปกรณ์การทำงาน เช่นโต๊ะ เก้าอี้ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งการปรับระยะห่างระหว่างสายตา และจอคอมพิวเตอร์ ประมาณ 2 – 2.5 ฟุต เก้าอี้ควรมีพนักพิงหลัง ควรจับเม้าส์ให้อยู่ในระดับเดียวกันกับมือและศอก วางงอ ทำมุม 90 องศา 
  • การนั่งควรนั่งหลังตรง ไม่ก้ม หรือเงยจนเกินไป ไม่เกร็งคอ บ่า ไหล่ และนั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น ขาไม่ลอยจากพื้น อาจหาหมอนนุ่มๆ มาหนุนหลังทำให้รู้สึกสบายขึ้น อย่าลืมที่จะลุกเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ
  • หากนั่งเป็นเวลานานๆ ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อบ่อยๆ อย่าปล่อยให้รู้สึกเมื่อยล้าจนเกินไป เพราะอาจเป็นอันตราย ทำให้หมอนรองกระดูกเกิดแรงกดทับ จนมีอาการปวดเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้
  • สิ่งของที่ใช้เป็นประจำ จัดให้อยู่ในจุดที่สะดวก เอื้อมหยิบง่าย ไม่ควรก้ม หรือเอื้อมมากเกินไป
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น เพราะการดื่มน้ำสามารถปรับสมดุล ช่วยให้คอลลาเจนในร่างกายยืดหยุ่นได้ดี 
  • ไม่ควรเคร่งเครียดกับงานจนเกินไป ถ้ารู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวให้หากิจกรรมอื่นทำ เพื่อเป็นการผ่อนคลาย
  • หากพยายามปรับพฤติกรรมทุกอย่างแล้ว ยังไม่หายจากอาการ Office Syndrome หรือ Work from Home Syndrome ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาก่อนมีอาการรุนแรง
โพสต์ไว้ที่: News เก็บเข้าไฟล์ไว้ที่:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *