โรงพยาบาล ม.อ. จับมือภาคีเครือข่าย จัดทำ Home Isolation รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

วันนี้ ( 9 สิงหาคม พ.ศ. 2564) ณ อาคารบริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  นายจารุวัฒน์  เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย รศ.นพ.เรืองศักดิ์  ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเครือข่ายด้านสาธารณสุขในจังหวัดสงขลา ร่วมเปิด “งานแถลงข่าว ความร่วมมือดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยระบบ Home Isolation ในจังหวัดสงขลา” ซึ่งผู้ป่วยที่จะเข้าสู่ระบบนี้ จะเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ที่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการดูแลที่เหมาะสม โดยการจัดระบบ Home Isolation ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการปรับรูปแบบของในโรงพยาบาลสนามให้สามารถรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น

นายจารุวัฒน์  เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดสงขลาได้มีการยกระดับความเข้มข้นและการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างจริงจังเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านการตรวจคัดกรอง การรักษาพยาบาล และการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ซึ่งส่วนของการรักษาพยาบาล ทางจังหวัดได้มีการประชุมและหารือเพื่อหาแนวทางในการดูแลและรักษาผู้ป่วยกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง รวมถึงผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว อย่างถูกต้อง เหมาะสม และทั่วถึง
แต่จากสถานการณ์จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องปรับวิธีการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้จำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองเริ่มมีจำนวนมาก เป็นผลจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นและจากสายพันธุ์ของโรคโควิด – 19 ทำให้การบริหารจัดการเตียงในโรงพยาบาลต่าง ๆ รวมถึงโรงพยาบาลสนาม ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไป เป็นการรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองมากขึ้น และเพิ่มเติมระบบการดูแลผู้ป่วยที่พักรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation ขึ้นมา เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้ป่วยสีเหลือง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวควบคู่ไปด้วย

ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์เรืองศักดิ์  ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า
“ศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิด – 19 ที่พักรักษาตัวที่บ้าน โรงพยาบาลสงขลานครินทร์”เปิดบริการเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่คาดว่าจะเพิ่ม  มากขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้มีมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมปรับปรุงพื้นที่ของหอผู้ป่วยต่าง ๆ ของโรงพยาบาลฯ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด- 19 รวมถึงการเปิดโรงพยาบาลสนามจำนวน 2 แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลสนามฯ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่ขณะนี้รองรับผู้ป่วยเกือบ 300 เตียง แต่จากจำนวนของผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลฯ ต้องปรับรูปแบบการดูแลผู้ป่วยใหม่ โดยให้ผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มสีเขียว ซึ่งไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่จะมีระบบการดูแลรักษาที่มีแพทย์คอยตรวจสอบอาการ โดยผู้ป่วยที่จะเข้าสู่ระบบHome Isolation ของโรงพยาบาลฯ จะต้องผ่านการตรวจหาโควิด ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ตรวจด้วยชุด Antigen Test Kit  เมื่อทราบผลตรวจเป็นบวก ต้องลงทะเบียนตัวเอง ผ่าน Application “บันทึกอาการผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน” ทำตามขั้นตอนและกรอกรายละเอียด และลงชื่อในใบยินยอม (Inform Consent) ที่อยู่ใน Application

หลังจากนั้น ทาง รพ.จะส่ง “กล่องหาย-ห่วง (Safe Box)” ไปให้ ภายในกล่องประกอบด้วย เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจน ยาลดไข้ (paracetamol) ยาแก้ไอ (bromhexine) และยาแก้แพ้ (Loratadine or CPM)  กรณียาหมด มีการจัดส่งยาไปให้ผู้ป่วยถึงที่บ้าน นอกจากนี้ยังมี Application ที่จะคอยติดตามอาการ รวมถึงสามารถพูดคุยและสอบถามทีมแพทย์และพยาบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทางโรงพยาบาลได้เปิดศูนย์บัญชาการดูแลผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไว้ที่องค์กรแพทย์ บริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งในระยะแรก จะมีแพทย์ 3 คน พยาบาล 5  คน  และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนอีกจำนวนหนึ่ง คอยทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว ทั้งในด้านการจัดส่งยา ส่งอาหาร วัสดุทางการแพทย์ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปให้ ซึ่งการจัดระบบดูแลผู้ป่วยแบบ Home Isolation ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงสมาคมสโมสรนักลงทุน ที่สนับสนุนพนักงานจัดส่ง หรือ ไรเดอร์  ในการจัดส่งสิ่งของต่างๆให้กับผู้ป่วยในแต่ละบ้านอีกด้วย

การเปิดศูนย์การดำเนินงานบริการดูแลรักษาในที่พักระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล (Home Isolation) โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในครั้งนี้ ได้รับความกรุณาและความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ในการช่วยเหลือทั้งในด้านทุนสนับสนุน
ด้านการทำความเข้าใจกับชุมชน ด้านการรองรับในเรื่องของสิทธิการรักษาพยาบาล ทางคณะแพทยศาสตร์ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกัน        
ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ในยามวิกฤตครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *