แพทยท์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน สาขาวิขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. ยืนยันการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปี ที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประสิทธิภาพดีสามารถป้องความรุนแรงอัตราการนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้สูง พร้อมให้ข้อมูลการเฝ้าระวังอาการและความปลอดภัยในข้อกังวลเกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีน
พญ.พุทธิชาติ ขันตี แพทยท์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ สาขาวิขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของสายพันธ์เดลต้ามากที่สุด และวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้ดี คือวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งในประเทศไทยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ให้การรับรองให้ใช้ในเด็กอายุ 12-17 ปี ขณะนี้มีไฟเซอร์ยี่ห้อเท่านั้น ส่วนด้านประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ สามารถป้องความรุนแรงอัตราการนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้ดีสูงถึงประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ โดยทั่วโลกมีการใช้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับกลุ่มเด็กไปแล้วหลายล้านโดส ส่วนข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบหลังได้รีบวัคซีนนั้น จากผลการวิจัยของต่างประเทศ ระบุว่าในกลุ่มเด็กที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีโอกาสเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 สามารถพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 4-5 เท่า ฉะนั้นกุมารแพทย์ในประเทศไทยจึงพิจารณาให้เด็กผู้หญิงฉีดครบจำนวน 2 เข็ม ส่วนเด็กผู้ชายให้ฉีด 1 เข็ม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการเกิดภาวะหัวใจอักเสบ และต้องประเมินประโยชน์และความเสี่ยงเพิ่มเติมในอนาคต
พญ.วัลยา กู้สกุลชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน สาขาวิขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. ให้ข้อมูลถึงผลข้างเคียงรวมถึงอาการแพ้หลังได้รีบวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กกลุ่มอายุ 12-17 ปี ว่า จากการศึกษาผลข้างเคียงและการเกิดอาการแพ้ พบว่าผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรงส่วนใหญ่มักแสดงอาการใน 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีน เพราะฉะนั้นจึงเป็นข้อกำหนดว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วต้องนั่งพักและสังเกตอาการประมาณ 20-30 นาที เพื่อประเมินเบื้องต้น อย่างไรก็ตามจะมีบางรายที่เกิดอาการแพ้รุนแรงหลังฉีดวัคซีน 30 นาที เช่น มีผื่นตามตัวร่วมกับอาการอื่นๆ แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มผลข้างเคียงทั่วไป สามารถพบได้หลังจากได้รับวัคซีนทุกชนิด เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนอื่นๆ ส่วนใหญ่มักมีอาการไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน รวมไปถึงปวดบวมตรงตำแหน่งที่ฉีด มักเกิดได้ภายในช่วง 1-2 วันแรก และสามารถรักษาตามอาการได้
- กลุ่มอาการแพ้วัคซีน สามารถแบ่งออกเป็นการแพ้ไม่รุนแรง เช่น มีผื่นลมพิษหรือตาบวม ปากบวม ส่วนการแพ้รุนแรง จะมีผื่นลมพิษร่วมกับมีอาการจากระบบอื่นๆ เช่น มีผื่นลมพิษร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน หรือมีผื่นลมพิษร่วมกับหอบเหนื่อย เป็นต้น
- กลุ่มผลข้างเคียงจำเพาะ ในแต่ละวัคซีนจะพบผลที่แตกต่างกัน เช่น มีรายงานการวัคซีนไฟเซอร์ จะมีผลข้างเคียงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 (ข้อมูลจากต่างประเทศเฉลี่ยประมาณ 5 คนต่อแสนโดส) ส่วนยี่ห้ออื่นก็พบผลข้างเคียงจำเพาะที่แตกต่างกันไป
ด้านกรมควบคุมโรค เผยข้อมูลว่าหลังการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก 12-17 ปี พบมีอาการไม่พึงประสงค์ 3 ราย เป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังรับวัคซีนไฟเซอร์ เบื้องต้นได้รับการรักษาพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามหลังฉีดวัคซีนหากมีอาการเหนื่อย หอบ เจ็บหน้าอก ใจสั่น ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป