ต่อมไพเนียลจะมีปฏิกิริยาในการตอบสนองต่อสีแต่ละสีแตกต่างกันออกไป ซึ่งส่งผลให้ความรู้สึก จิตใจ ฮอร์โมน และอารมณ์ในร่างกายของเราในขณะนั้นแตกต่างกัน เช่น เมื่อจอประสาทตารับแสงสีแดงจะทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตัว รับแสงสีม่วงจะทำให้รู้สึกสงบ ด้วยความหลากหลายของสีนี่เอง นักจิตวิทยาจึงสามารถนำพลังของแต่ละสีมาปรับใช้เพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของร่างกายและจิตใจให้กับผู้ป่วยมากมายในปัจจุบัน โดยเรียกศาสตร์แห่งการรักษานี้ว่า สีบำบัด หรือ Color Therapy
หากเราตื่นมาแล้วเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องจะรู้สึกเบิกบานอยากทำโน่นอยากทำนี่ แต่หากตื่นเช้าขึ้นมาฝนตก เราจะรู้สึกเบื่อเซ็ง หมดเรี่ยวหมดแรงไม่อยากทำอะไรอยากนอนต่อ อันนี้เป็นสภาวะเรื่องของการเห็นสีตามธรรมชาติที่มนุษย์จะสังเกตได้ว่า มนุษย์มีอิทธิพลเรื่องของแสงและสีมากในการทำงานของความรู้สึก เพราะเมื่อไหร่ที่แสงสีไปในทางที่ค่อนข้างสดใส เราจะรู้สึกอยากทำโน่นทำนี่มากขึ้น แต่เมื่อไหร่ แสงสีที่ขุ่นมัวหรือมืดขึ้น เราจะรู้สึกเบื่อเซ็ง
พท. ธีรวัฒน์ สุดขาว
คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
พลังแห่งสีกับการบำบัดโรค
โดยทั่วไปศาสตร์ของการรักษาโรคโดยการใช้สีบำบัด เรา สามารถแบ่งชนิดหรือโทนของสีออกเป็นสองแบบคือ สีโทนร้อน และ สีโทนเย็น ซึ่งโทนสีทั้งสองแบบมีประโยชน์ต่อการบำบัดโรคทั้งทางกายและทางใจแตกต่างกันออกไป ดังนี้
กลุ่มสีโทนร้อน เช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วง จะเป็นกลุ่มสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกมีพลัง เร่าร้อน กระตือรือร้น และกระฉับกระเฉง ในทางจิตวิทยา ความแรงของสีโทนร้อนจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเจริญอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกหิว และกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
สีเหลือง
สีเหลืองเป็นสีแห่งความสนุกสนาน ความฉลาดรอบรู้ สดใส ร่าเริง และทำให้มีอารมณ์ขัน ทั้งนี้ผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองมักอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันหวัด และช่วยเสริมสร้าง ความเจริญเติบโตให้ร่างกาย พลังของสีเหลืองช่วยให้ระบบการทำงานของน้ำดีและลำไส้เป็นไปตามปกติ ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ทั้งยังสามารถใช้เยียวยาอาการท้อแท้ หดหู่ และหมดกำลังใจของผู้ป่วยบางประเภทได้อีกด้วย
สีส้ม
สีส้มเป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ อบอุ่น สดใส มีสติปัญญา ความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และในขณะเดียวกันก็มีความระมัดระวังไปในตัว ผลไม้และผักที่มีสีส้มอุดมด้วยวิตามินบี ที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด เผาผลาญแป้งและน้ำตาล บำรุงระบบประสาท พลังของสีส้มช่วยคลายอาการหอบหืดและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยรักษาความผิดปกติของม้าม ตับอ่อน ลำไส้ ทั้งยังช่วยในการดูดซึมอาหารของกระเพาะและลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ในทางจิตวิทยา พลังของสีส้มมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการซึมเศร้า หากคุณต้องการเรียกพลังความกระตือรือร้นในชีวิตให้กลับคืนมา สีส้มเป็นสีที่คุณควรมองหาและนำมาประยุกต์ใช้ให้มากที่สุด
สีแดง
สีแดงเป็นสีที่กระตุ้นระบบประสาทของเราได้รุนแรงที่สุด ให้ความรู้สึกเร้าใจตื่นเต้น ท้าทาย ตื่นตัว ผักและผลไม้สีแดงเป็นแหล่งของวิตามินบี 12 ทองแดง และเหล็กซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาท พลังของสีแดงกระตุ้นพลังชีวิตให้มีความเข้มแข็ง กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา ในแง่ของการรักษา สีแดงมีอิทธิพลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มพลังในระบบการไหลเวียนของเลือด และรักษาอาการหวัด
เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ ควรรีบหาสีแดงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยเร็ว ทั้งนี้เพราะพลังแห่งความมั่นใจ กล้าแสดงออก และความรักที่มีอยู่ในสีโทนร้อนเช่นสีแดงนั้นจะสามารถสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองให้กับคุณได้เป็นอย่างดี
สีม่วง
สีม่วงเป็นสีแห่งผู้รู้ ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจและสร้างความสงบในจิตใจได้เป็นอย่างดี ผักและผลไม้ที่มีสีม่วงเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินดี ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงาน ช่วยในการย่อยอาหาร พลังของสีม่วงช่วยปรับสมดุลในร่างกายของเราให้กลับมาเป็นปกติ ใช้บำบัดโรคไต กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคผิวหนังบางชนิด อีกทั้งยังช่วยในการบำบัดโรคไขข้อได้อีกด้วย
จากการวิจัยพบว่า พลังของสีม่วงยังช่วยให้สมองของเราสงบ และสามารถสร้าง
แรงบันดาลใจในด้านต่างๆ ทั้งยังก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในตัวเราไปในคราว
เดียวกัน เมื่อคุณต้องขบคิดปัญหาที่ยังไม่สามารถหาทางออกได้ การนำสีม่วงเข้ามา
ประยุกต์ใช้ (เช่นใช้ปลอกหมอน นาฬิกา กรอบรูป หรือเน็คไทสีม่วง)
จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
กลุ่มสีโทนเย็น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า เป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สงบ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และไม่ทำให้เครียด สีโทนเย็นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องทำงานหนักและใช้ความคิดเป็นอย่างมาก
สีเขียว
สีเขียวเป็นสีที่เด่นที่สุดบนโลก ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตา ผ่อนคลาย ปลอดภัย ทำให้เกิดความหวังและความสมดุล นอกจากนี้ ผักผลไม้สีเขียวก็อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญมากมาย โดยเฉพาะ
วิตามินซีซึ่งช่วยในการสมานแผล ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เล็บสวย ฟันสวย เพิ่มความต้านทานโรค ในด้านการรักษา ใช้เมื่อต้องการผ่อนคลายความตึงเครียด เพราะพลังของสีเขียวสามารถทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย และความดันโลหิตของเราลดลงได้ทั้งยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ป้องกันการจับตัวของก้อนเลือด ต่อต้านเชื้อโรค รักษาอาการของคนเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เยื่อบุอักเสบ เป็นต้น
สีน้ำเงิน
สีน้ำเงินเป็นสีที่สร้างความสุขุม เยือกเย็น หนักแน่น และละเอียดรอบคอบ พลังของสีน้ำเงินทำให้ระบบหายใจของเราเกิดความสมดุลและแข็งแรงขึ้น ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง และคลายความเหงา อีกทั้งยังเป็นสีที่ใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจและการแสดงออกทางศิลปะได้ดีอีกด้วย
สีฟ้า
สีฟ้าเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็น เป็นอิสระ ปลอดโปร่ง สบาย ปลอดภัย ใจเย็น และระงับความกระวนกระวายในใจได้ดี พลังของสีฟ้ามีคุณสมบัติในการรักษาอาการของโรคปอด ลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน รักษาอาการเจ็บคอ และทำให้ชีพจรของเราเต้นเป็นปกติ
เมื่อรู้จักประโยชน์ของสีแต่ละสีกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูกันต่อดีกว่าว่าจะสามารถนำสีสันทั้งหลายเหล่านี้มาปรับและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไรบ้าง