“การแพทย์วิถีใหม่” เน้นความปลอดภัย-ลดความแออัด

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน  ในส่วนของด้านการแพทย์ก็มีปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อความปลอดภัยทั้งบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน  รวมถึง ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการและยกระดับคุณภาพบริการ ก็จะทำให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“การแพทย์วิถีใหม่ (New Normal of medical Service ) โดยกรมการแพทย์ได้เริ่มต้นและจะขยายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม อยากขอให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อการบริการวิถีใหม่ ซึ่งระบบมีความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ให้บริการและผู้รับบริการ” 

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

การให้บริการทางการแพทย์วิถีใหม่ (New Normal Medical Service) มุ่งเน้นการรักษาให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยแยกกลุ่มประเภทผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่มคือ

1. กลุ่มสีเขียว กลุ่มที่ดูแลตนเองได้ดี เช่น คนไข้เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่สามารถคุมได้ดี ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลทุกเดือน และไปพบแพทย์ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้วิธีการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านหรือการส่งยาทางไปรษณีย์

2. กลุ่มสีเหลือง กลุ่มที่มีปัญหาเล็กน้อย แต่ยังไม่มีโรคแทรกซ้อนโดยจะมีผู้จัดการคนไข้ที่เป็นพยาบาลและผู้ประสานงานคนไข้ที่เป็น อสม. ลงไปเยี่ยมบ้านและสอบถามถึงปัญหาที่ต้องการปรึกษาแพทย์ ซึ่งจะใช้ระบบเทเลเมดิซีนจากบ้านคนไข้ที่อยู่ที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล

3. กลุ่มสีแดง กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องมาพบแพทย์โรงพยาบาล ทำการจัดคิวโดยผู้รับบริการไม่ต้องรอนาน รวมทั้งพัฒนา Digital Solution หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยบริหารจัดการ อาทิ แอปพลิเคชัน ตั้งแต่เข้าตรวจ จนรักษาและจ่ายเงินก็ผ่านแอปพลิเคชันได้ มาช่วยอำนวยความสะดวกในการบริการ

สำหรับการแพย์วิถีใหม่จะเพิ่มการเข้าถึงบริการแก่ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ด้วยการใช้เทคโนโลยี ทำให้ผู้ป่วยทุกคนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ยกระดับความปลอดภัยด้านการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทั้งคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์