เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เผยผลสำรวจ พฤติกรรมของเด็กและเยาวชนกับการใช้สื่อออนไลน์ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และการเฝ้าระวังเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดและการโฆษณาของธุรกิจพนันออนไลน์ จากทั่วประเทศ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง ผลการสำรวจพบเว็บพนันออนไลน์เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่า รวมทั้งยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 167 ยูสเซอร์ ที่รับโปรโมตเว็บพนันออนไลน์ ประกอบด้วย บุคคลทั่วไปที่มีหลากหลายอาชีพบนโลกออนไลน์ อินฟลูเอ็นเซอร์ และเน็ตไอดอล ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 200 คน ไปจนถึง 1.8 ล้านคน สำหรับผลครั้งนี้จะถูกนำไปประกอบการผลักดันนโยบายกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาเจ้าภาพดำเนินการต่อไป
“ธุรกิจพนันออนไลน์ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสทองในช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องหยุดทำงานที่บ้าน หลอกล่อให้เด็กและเยาวชนเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ ในขณะที่หลายคนอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตกเป็นเครื่องมือในการโฆษณาด้วยการรีวิวให้เว็บพนัน เช่น คำพูดสวยหรูชวนเชื่อว่าเล่นแล้วมีเงินใช้ในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ลำบาก ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในช่วงใกล้เปิดเทอม หรือทำให้ภาคภูมิใจว่าสามารถหาเงินได้เองอย่างง่ายดาย เป็นต้น”
คุณพชรพรรษ์ ประจวบลาภ
เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.)
ก่อนช่วงระบาดโควิด-19 เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ใช้เวลาในแต่ละวันกับการออนไลน์เฉลี่ย 6 ชั่วโมงขึ้นไป ร้อยละ 32.13 แต่ในช่วงอยู่บ้านเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 48.20 หรือประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ และในระหว่างการออนไลน์ได้พบเห็นโฆษณาชวนให้เล่นพนันหรือเสี่ยงโชค เช่น ‘เล่นเกมได้เงิน’ ‘ลงทุนง่าย ได้เงินไว’ หรือ ‘กักตัวไม่กลัวจน’ มากถึงร้อยละ 70.06 โดยช่วงอายุที่พบเห็นโฆษณาชวนให้เล่นพนันหรือเกมพนันมากที่สุด คือ 15 -19 ปี ร้อยละ 47.4 ส่วนช่องทางที่พบเห็นเป็นเฟซบุ๊กมากที่สุด ร้อยละ 76.53 รองลงมาคือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันดูหนังฟังเพลง เล่นเกม ร้อยละ 70.64 และไลน์ ร้อยละ 32.50
“เมื่อเห็นโฆษณาการพนันออนไลน์แล้ว มีเด็กและเยาวชนตามเข้าไปเล่นพนันร้อยละ 13.24 โดยการพนัน 5 ประเภทที่เล่นมากที่สุด ได้แก่ ยิงปลา ร้อยละ 31.68 เพราะมีลักษณะไม่เหมือนการพนัน แต่เป็นการเล่นเกมที่มีโอกาสได้เงิน รองลงมาคือแทงหวย ร้อยละ 19.80, เกมสล็อต ร้อยละ 17.82, บาคาร่า ร้อยละ 15.84 และทายผลกีฬา ร้อยละ 14.85 ตามลำดับ ผลการเล่นพนันส่วนใหญ่คือร้อยละ 82.18 เสียมากกว่าได้ และน่าตกใจว่าจำนวนเงินที่เสียสูงสุดมากถึง 100,000 บาท น้อยที่สุดอยู่ที่ 7,000 บาท” คุณเมธาวี เมฆอ่ำ กรรมการฝ่ายบริหาร สมาคมไอเซคผู้นำนักศึกษาระหว่างประเทศ กล่าว