คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดโครงการ “การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพไม้ผลร่วมยาง และไม้ผลผสมผสานเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา” ซึ่งเป็นโครงการย่อยภายใต้แผนงานหลัก การสร้างนวัตกรรมอาชึพการเกษตร เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และบรรเทาผลกระทบจากโควิด- 19 (สงขลาโมเดล) ส่งเสริมเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
ผศ.ทวีศักดิ์ นิยมบัณฑิต คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวหน้าโครงการ และรศ.ดร.จรัสศรี นวลศรี รับผิดชอบโครงการด้านไม้ผล โดยมีเป้าหมายของโครงการ เพื่อถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรรม จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่สัมฤทธิ์ผลแล้ว เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยการให้ความรู้การบริหารจัดการสวนผลไม้ ตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices: GAP) เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด เน้นไม้ผลร่วมยางทั้งปลูกในแปลงเดียวกันและปลูกแยกแปลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลูกแบบผสมผสาน สถานที่โครงการคือตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา
รศ.ดร. จรัสศรี นวลศรี หัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการได้รับงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ให้เริ่มดำเนินงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงมากในช่วงดังกล่าว มีผลกระทบต่อการลงพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ต้องปรับแผนการทำงาน อีกทั้งผลไม้ชนิดต่างๆ ในพื้นที่เริ่มติดผล ปีนี้ผลไม้หลายชนิด เช่น เงาะ และมังคุด ติดผลจำนวนมาก ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ตัวอย่างเช่น เงาะ เฉพาะในพื้นที่ตำบลเขาพระคาดว่ามีผลผลิตประมาณ 800-900 ตัน การระบายผลผลิตออกนอกพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก แม่ค้าที่เคยมาซื้อผลไม้หายหน้าไป เนื่องจากการล๊อคดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จากการระบาดของโควิด-19 ตลาดท้องถิ่น และตลาดนัดส่วนใหญ่ถูกปิด การส่งสินค้าไปตลาดผลไม้ใหญ่ของประเทศ เช่น ตลาดไทที่กรุงเทพมหานครก็มีปัญหาการขนส่ง
ทางโครงการจึงจัดการส่งเสริมให้มีการขายออนไลน์ เป็นทางเลือก แต่ยังมีปัญหาตามมา เมื่อบริษัทรับขนส่งสินค้า ไม่บริการรับส่งผลไม้ ทำให้ราคาผลไม้ เงาะ มังคุด ตกต่ำเป็นประวัติการณ์โครงการฯ จึงได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรนำผลผลิตจากสวนส่งตรงถึงตลาดเกษตร ม.อ. ช่วงวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เพื่อส่งต่อถึงลูกค้าที่สั่งสินค้าล่วงหน้า และผู้มาซื้อที่ตลาด นอกจากนี้ยังได้ช่วยเกษตรกรเปิดช่องทางการขายผ่านเพจ PSU Bazaar ของมหาวิทยาลัยร่วมกับ เพจ Local Life Platform มีการ live สด ขายผลไม้ และ แอปพลิเคชั่น OneChat เมื่อมีการสั่งซื้อ ก็มีไรเดอร์บริการไปส่งให้ถึงบ้าน ในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมทั้งแนะนำการขายออนไลน์ผ่านเฟสบุคให้กับลูกหลานเกษตรกร การขายผ่านช่องทางต่างๆ ที่กล่าวมานี่ นอกจากเป็นการช่วยระบายสินค้าให้กับเกษตรกรแล้ว ยังมีผลให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตจากสวนในราคาที่สูงกว่าการขายกับพ่อค้าคนกลาง 5-10 บาทต่อกิโลกรัม ขณะนี้ผลผลิตผลไม้ เริ่มลดน้อยลง สถานการณ์ด้านการตลาดและราคาก็ดีขึ้นเป็นลำดับ