นิสัยการทำงานของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนชอบนั่งทำงานเงียบๆ คนเดียว บางคนชอบเปิดเพลงฟังคลอไปเรื่อยๆ ขณะทำงาน ว่าแต่การนั่งทำงานแบบไหนที่จะช่วยให้ Productive และได้งานมากกว่ากัน แน่นอนว่าหลายคนคงอาจสงสัยทำไมเสียงเพลงที่อาจทำลายสมาธิถึงช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นจริงๆ ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นได้สรุปเอาไว้ว่าเสียงเพลงนั้นเปรียบเสมือน ‘Music Therapy’ การเปิดเพลงหรือมีเสียงดนตรีคลอระหว่างทำงาน จะช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลให้เราสามารถผลิตผลงานที่ดีออกมาได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มสมาธิให้เราโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น และทำให้เราทำงานภายใต้สถานการณ์ที่กดดันได้ดีขึ้นอีกด้วย
“สรุปแล้ว การนั่งทำงานเงียบๆ หรือ เปิดเพลงฟังไปด้วย มีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และถือว่าเป็นความชอบของแต่ละคน ทั้งยังเป็นเรื่องของความต่างด้านหน้าที่การงานอีกด้วย บางคนที่ทำงานแบบไม่ต้องใช้สมาธิมากนัก การเปิดเพลงจะช่วยให้ความน่าเบื่อลดลง แต่สำหรับคนที่จำเป็นต้องจดจ่อ ต้องใช้สมาธิสูง การนั่งเงียบๆ คนเดียว อาจจะช่วยให้งานเสร็จได้มากกว่า”
หรือหากไม่อยากได้ยินเสียงคลิกเม้าส์ หรือเสียงรอบๆตัวแต่ก็ไม่อยากฟังเพลง ให้ลองเปิดเสียงดนตรีที่เป็นเสียงจากธรรมชาติในระหว่างการทำงาน ว่ากันว่าจะช่วยให้สมองผ่อนคลาย เกิดสมาธิ และช่วยให้จดจ่อได้มากขึ้น เสียงจากธรรมชาติอย่างเสียงคลื่นทะเล เสียงน้ำตก เสียงนกร้อง หรือเสียงลมพัด ยังทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์สุนทรีย์ สบายใจขึ้น ส่งผลให้ทำงานดีขึ้นได้อีกด้วย
ทั้งนี้มีงานวิจัยจาก Cambridge Sound Management บอกไว้ว่าเพลงที่มีเนื้อร้องนั้นจะเบี่ยงเบนความสนใจของเราไปจากงาน แล้วโฟกัสกับเนื้อร้องนั้นแทน ซึ่งนอกจากจะลดทอนสมาธิแล้ว ยังทำให้งานไม่เสร็จ หรือเสร็จก็อาจจะผิดๆ ถูกๆ เพราะเราไม่มีสมาธิขณะทำงานเหล่านั้น ดังนั้นถ้าอยากนั่งทำงานยาวๆ แบบมีเพลงคลอเบาๆ แนะนำให้ฟังเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้อง จะช่วยสร้างความสงบ และเพิ่มสมาธิได้มากกว่า
ข้อมูลงานวิจัย:insider.com