หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ 33 จังหวัด 41 สถาบัน หนุนเสริมพลังโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมภาคีเครือข่ายชุมชน ท้องถิ่น ศิลปิน และผู้ประกอบการวัฒนธรรม เดินหน้าจัดงาน“มหกรรมทุนทางวัฒนธรรมฟื้นใจเมือง” 4 ภูมิภาค ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาสู่ซอฟต์ พาวเวอร์ จัดแสดงในงาน เพื่อหยั่งรากสำนึกท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมศิลปินและผู้ประกอบการวัฒนธรรม พร้อมโชว์ระบบฐานข้อมูลและแผนที่วัฒนธรรมของประเทศไทย เป็นแหล่งรวมสืบค้นต้นทุนทางวัฒนธรรมเพื่อการใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network: RUN) นำผลงานวิจัยจาก 8 มหาวิทยาลัย มาร่วมจัดแสดงนิทรรศการภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2022) ครั้งที่ 17” เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เชื่อมโยงบูรณาการองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีส่วนร่วมในการชูผลงานวิจัยเด่น ตอบโจทย์แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่าผู้ป่วยมุสลิมหลายท่านมีความกังวลจากการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด เนื่องจากไม่มั่นใจในองค์ประกอบที่อาจขัดต่อการทำศาสนกิจ จึงเป็นแนวคิดที่จะสร้างมาตรฐานอุปกรณ์รวมทั้งองค์ประกอบที่ให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจและผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล โดยมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการคัดกรองผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะใช้กับผู้ป่วย โดยใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา “อุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม” จนสามารถเป็นตัวอย่างให้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เครื่องมือแพทย์ อาหารทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ในแต่ละปี ประเทศไทยมีการบริโภคไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด หรือไข่นกกระทา เป็นจำนวนหลายล้านฟอง ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม เรียกได้ว่า “ไข่” เป็นวัตถุดิบยอดนิยม ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีเปลือกไข่จำนวนมหาศาล และด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่หลุมฝังกลบที่ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล รวมทั้งแนวทางการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด การนำของเหลือทิ้งหรือของเสียต่างๆ มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น เช่นเดียวกับแนวคิด “ทำอย่างไรเปลือกไข่ที่ไร้ค่าจะได้รับการนำมาใช้หรือผลิตให้เป็นประโยชน์” นี่จึงเป็นแนวคิดของงานวิจัยชิ้นนี้
วันนี้ (18 พ.ย. 64) ที่ Café Amazon (คาเฟ่ อเมซอน) ปตท. สาขาทางเข้าสนามบิน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่งมอบเฟอร์นิเจอร์หวายเทียมจากงานวิจัย แก่คาเฟ่อเมซอน โออาร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากการศึกษาแนวทางการ upcycling พลาสติกเหลือทิ้งผสมร่วมกับยางพารา โดยใช้องค์ความรู้งานวิจัยของ ดร. ณัฐพนธ์ อุทัยพันธุ์ และ ดร.กานดา เซ่งลอยเลื่อน เป็นฐานเพื่อผลิตเป็นวัสดุจักรสานสำหรับเฟอร์นิเจอร์จากยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก ตอบโจทย์ BCG ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ คาเฟ่อเมซอน โออาร์ ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม “ยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก”
นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ. วิทยาเขตปัตตานี แปรรูปกล้วยน้ำว้าดิบเป็นแป้งกล้วยที่ให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ปราศจากกลูเตน มีไฟเบอร์สูงเมื่อเทียบกับแป้งชนิดอื่นๆ สามารถประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพสู่ผลิตภัณฑ์ต้นแบบสแน็คบาร์กรอบจากแป้งกล้วย 100% MusaWa : นวัตกรรมอาหารขบเคี้ยวจากแป้งกล้วยน้ำว้า
จากปัญหาขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติก และกล่องอาหารพร้อมทานที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อ ถึงแม้บรรจุภัณฑ์บางชนิดสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ แต่ก็ใช้เวลานานจนทำให้เกิดการกำจัดขยะอย่างผิดวิธีเช่นการเผาจนเกิดปัญหามลภาวะเป็นพิษ คณะนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงเข้ามามีส่วนร่วมในการลดใช้ Single use plastic โดยการนำโจทย์ปัญหาจากชุมชนมาแก้ไขและต่อยอดเป็นนวัตกรรมจานจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมภูมิปัญญาจากชุมชน
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ได้สนับสนุนนักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการคิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์หนุนสะโพก จากยางธรรมชาติ ประกอบด้วย แผ่นหนุนสะโพก และ ชุดหนุนสะโพกทำด้วยผ้ายืด ออกแบบเป็นเข็มขัดรัด สามารถลดแรงกระแทกได้ถึง ร้อยละ 37 มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อสะดวกต่อทุกสถานที่ในการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถปรับได้ตามต้องการ ผลงานได้รับมาตรฐาน มอก. ๒๙๕๘-๒๕๖๒ และได้รับอนุสิทธิบัตรการออกแบบ และกระบวนการผลิต (หมายเลข 1703000630 และ 1703000631)
จากสถานการณ์การระบาดของโรคใบร่วงยางพาราที่เริ่มสำรวจพบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ในไทยพบระบาดครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และยังพบในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ได้แก่ ยะลา ตรัง พังงา ปัตตานี สุราษฎร์ธานี สงขลา กระบี่ และสตูล มีรายงานความเสียหายจากโรคใบร่วงยางพารามากกว่า 100,000 ไร่ โรคนี้สามารถพบได้ในยางพาราตั้งแต่ระยะต้นกล้าในแปลงเพาะชำจนถึงระยะในแปลงทุกช่วงอายุ สายพันธุ์ที่พบเป็นโรค ได้แก่ สายพันธุ์ RRIM 600, RRIT 251,PB 235 และ PB311 ซึ่งเข้าทำลายส่วนต่าง ๆ ของต้นยาง ได้แก่ ฝัก ใบ กิ่งก้าน และหน้ากรีดยาง ฝักที่ถูกทำลายจะเน่าดำ ค้างอยู่บนต้น ไม่แตก และร่วงหล่นตามธรรมชาติ กลายเป็นแหล่งพักตัวของเชื้อ และที่สำคัญ ผลผลิตยางจะเริ่มลดลง
เมื่อวันที่ 26 สิงหา…