มาเลเซียประกาศยกระดับอุตสาหกรรมชิป ลงทุน 2.5 หมื่นล้านริงกิต สร้างงานในประเทศ ดึงหัวกะทิต่างชาติ

ราว 500 กิโลเมตร ในระยะที่ใกล้กว่ากรุงเทพมหานคร จากหาดใหญ่ถึง กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ได้ประกาศผลักดันอุตสาหกรรม ‘ชิป’ เพื่อหวังยกระดับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของโลก – ‘PSU Broadcast’ ชวนติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศเพื่อนบ้านที่อาจส่งผลกระเพื่อมใกล้ตัวมากขึ้นในเร็ววัน

เมื่อวันอังคารที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ณ งานประชุมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เมืองกัวลาลัมเปอร์  อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ประกาศแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (National Semiconductor Strategy) ชูความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์โลก หวังยกระดับเป็นศูนย์กลางผลิต ดึงบริษัทต่างชาติ สร้างงานวิศวกรในประเทศกว่า 6 หมื่นคน หนุนปั้น 10 บริษัทท้องถิ่น

อันวาร์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์นี้หวังผลักดันให้มาเลเซียเป็นศูนย์กลางผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ “เป็นกลางและไม่เลือกฝักฝ่าย (neutral and non-aligned)”  ท่ามกลางบริบทความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกระหว่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

เซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) เช่น ชิป เป็นหนึ่งในชิ้นสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนประกอบใน เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน รถยนต์-รถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์ทางการแพทย์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จนถึงอาวุธสงคราม  

ตามข้อมูลของหน่วยงานพัฒนาการลงทุนแห่งมาเลเซีย มาเลเซียครองสัดส่วน 13 เปอร์เซ็นต์ของการประกอบและบริการทดสอบชิปจากทั่วโลก  บริษัทต่างชาติ เช่น Intel ของสหรัฐอเมริกา Infineon จากเยอรมนี รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีจากจีนได้ประกาศขยายฐานการผลิตในประเทศมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันดำเนินการผลิตหลักในสวนอุตสาหกรรม (industrial park) ของเมืองปีนังและคูลิม 

แผนยุทธศาสตร์เซมิคอนดักเตอร์ ประกอบด้วยการลงทุนภาครัฐจำนวน 2.5 หมื่นล้านริงกิต (ราว 1.9 แสนล้านบาท) ในระยะเวลา 5-10 ปี เพื่อผลิตบุคลากรในสายงานและวิศวกรสำหรับอุตสาหกรรมนี้ 60,000 คน ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ ประกอบ และทดสอบไมโครชิป ซึ่งผ่านการร่วมมือจากส่วนงานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน 

ยุทธศาสตร์นี้ยังรวมถึงตั้งเป้าสร้างบริษัทในประเทศอย่างน้อย 10 บริษัทเพื่อสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง และหวังดึงการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ

“วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยบริษัทของประเทศมาเลเซียและคนเก่งจากทั่วโลก ซึ่งร่วมมือกับบริษัทระดับโลก เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคและระดับโลกในด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว

อ้างอิง:
Reuters
Nikkei Asia

อ่านต่อ

ศูนย์พัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ม.อ. ต่อยอดนวัตกรรมเรือไฟฟ้า แก้โจทย์ชุมชน

“ผ้าลีมาบาติก” ผ้าทอโบราณของจังหวัดชายแดนใต้

สงขลานครินทร์ วิเคราะห์เส้นทางสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก สู่วิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *