“ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 เป็นเหมือนบ้านพัก สำหรับผู้ป่วยพักฟื้นมากกว่าการรักษา ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่นี่ก็จะดูแลทั้งสุขภาพ และสุขภาพใจไปพร้อมๆกัน จึงมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยสามารถ กลับบ้านได้และไม่แพร่เชื้อในชุมชนต่อไป ขณะนี้มีผู้ป่วยจำนวน 10 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยที่ทำการตรวจ 2 ครั้งและไม่พบเชื้อจำนวน 3 ราย พร้อมส่งกลับบ้านแล้ว โดยก่อนกลับบ้านผู้ป่วยทั้ง 3 รายจำเป็นต้องได้รับความรู้ทั้งการเตรียมตัว ทำความเข้าใจว่าเมื่อออกไปแล้วต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ”
รศ.พญ มณฑิรา ตัณฑนุช ผู้บัญชาการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 กล่าว
ตลอดระยะเวลาที่ผู้ป่วย ทั้ง 3 คน พักฟี้นอยู่ในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 ได้รับการดูแลจากทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สายสนับสนุน ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เป็นอย่างดี นอกจากนั้นผู้ป่วยยังได้รับกำลังใจที่ดีจากชาวสงขลาและทั่วประเทศซึ่งมาในรูปของอาหารและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ได้นำมาใช้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย รวมทั้งทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน เมื่อผลการตรวจ ไม่พบเชื้อซ้ำแล้ว 2 ครั้ง แพทย์เจ้าของไข้ได้อนุญาตให้ผู้ป่วยทั้ง 3 คน กลับสู่ชุมชนได้ โดยในขั้นตอนนี้ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ และอสม. ซึ่งได้รับ ความร่วมมืออย่างดีในการให้ข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย กลับสู่ชุมชนได้อย่างราบรื่น โดยทางโรงพยาบาลได้จัดรถไปส่งผู้ป่วยถึงในชุมชนด้วย
“ ในกรณีที่ตรวจไม่เจอเชื้อ 2 ครั้ง เราเรียกว่าหายแล้ว และไม่มีความจำเป็นที่ต้องรักษาตัว และสามารถไปใช้ชีวิตตามปกติในภาวะ COVID-19 นั่นคือใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม เหมือนคนปกติทั่วไป ”
ทั้งนี้ผู้ป่วยรายแรกของทางโรงพยาบาลได้แสดงเจตจำนงในการบริจาคพลาสมา ให้กับหน่วยคลังเลือดโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งพลาสมาของผู้ป่วยที่หายจากโรค โควิด -19 จะมีประโยชน์อย่างมากในการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด -19 ที่มีอาการรุนแรง โดยภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยเปรียบเสมือนเป็นเซรุ่มใช้รักษาโรค กับผู้ป่วยรายอื่นต่อไป การแสดงเจตจำนงในการบริจาคพลาสมาแก่ทางโรงพยาบาลในครั้งนี้จึงถือเป็นการทำประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพจาก โรงพยาบาลสงขลานครินทร์