ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2568 กรมการขนส่งทางบกร่วมกับบริษัทรถเมล์ Thai Smile Bus (TSB) และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ร่วมเปิดให้บริการเส้นทางเดินรถเมล์ EV เส้นทางรอบเมืองหาดใหญ่ตั้งแต่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผ่านสนามบินหาดใหญ่ ผ่านโรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมถึงสถานีบขส. ให้บริการจำนวน 4 คันรอบเมืองหาดใหญ่
คุณสุชาดา ชัยเดช สมาคมผู้บริโภคสงขลา ในฐานะหนึ่งในหน่วยงานที่ติดตามและผลักดันบริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่ ได้ทำการลงพื้นที่ สอบถามผู้ให้บริการทั้งบริษัท TSB และ อบจ.สงขลา และทดลองใช้บริการ พบว่าเสียงตอบรับเป็นไปในทางที่ดี และมีผู้ใช้บริการมากขึ้นหลังจากหลายหน่วยงานมีการประชาสัมพันธ์ แม้ช่วงแรกจะมีผู้ใช้บริการน้อย
“ผู้ใช้บริการบางคนเคยขึ้นรถเมล์ที่กรุงเทพฯ ก็สะท้อนมาว่าอยากให้หาดใหญ่มีรถเมล์วิ่งบริการแบบนี้ในระยะยาว” คุณสุชาดากล่าว
การผลักดันขนส่งสาธารณะหาดใหญ่ ไม่ใช่เรื่องใหม่
ด้าน คุณสิทธิศักดิ์ ตันนมงตล เลขาธิการสภาเศรษฐกิจหาดใหญ่ กล่าวว่าการผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่หาดใหญ่และสงขลานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีการศึกษาในหลายคณะทำงาน ทั้งจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม รวมถึง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงเส้นทาง ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการเดินรถ
อย่างไรก็ตามกระบวนการผลักดันที่ผ่านมานั้นขาดเพียงขั้นตอนการทดลองให้บริการจริง ตนมองว่าเมื่อมีการให้บริการหลังเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เกิดการทดลองเดินรถจริง และสะท้อนต่อทิศทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน เพื่อเป็นทั้งการช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางหลังเหตุมหาอุทกภัย และพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ผลักดันขนส่งสาธารณะหลังวิกฤต ฟื้นเมือง ลดค่าใช้จ่าย
ภญ.ชโลม เกตุจินดา อุปนายกสมาคมผู้บริโภคสงขลา กล่าวว่ากฎหมายปัจจุบันได้อนุญาติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ แต่หากพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่น อาจพบอุปสรรคได้ 2 ด้านเป็นหลัก
หนึ่ง ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการหลายเขตพื้นที่เทศบาล-ท้องถิ่น ซึ่งการข้ามเขตเทศบาลอาจติดปัญหาด้านกฎหมาย
และในประเด็นด้านอื่นนั้น ภญ.ชโลมกล่าวว่าจากการพูดคุยกับเทศบาล เช่น ป้าย จุดจอดนั้นมีแผนดำเนินการพัฒนา และ ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบขนส่งสาธารณะ
สอง ด้านผู้ประกอบการท้องถิ่น กรณีที่ผู้ประกอบการไม่ปรับตัว เช่น ไม่มี GPS ติดตามรถ หรือการพัฒนาตัวรถนั้น จำเป็นต้องผลักดันทั้งการปรับสภาพรถเพื่อให้รถประจำทางเติบโตพร้อมกันทั้งระบบอย่างมีคุณภาพ
คุณสิทธิศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมโดยอิงกับหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ พ.ศ.2568 ว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันระบบขนส่งสาธารณะเพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถยนต์ส่วนตัว รวมถึงเป็นการฟื้นเมือง และฟื้นฟูเศรษฐกิจหาดใหญ่ผ่านการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อผู้คน
“หลังเหตุน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อนเยอะมาก การที่จะออกรถใหม่เป็นทั้งภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น หากมีบริการขนส่งมวลชน จะช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง หากมองในเชิงยุทธศาสตร์ถ้าผู้คนไปมาหาสู่กันได้สะดวก การค้าขายก็เกิดขึ้น และการพัฒนาระดับเศรษฐกิจฐานรากก็เติบโตได้ง่ายขึ้น” เลขาธิการสภาเศรษฐกิจหาดใหญ่กล่าว
เรื่องและภาพ: กองบรรณาธิการ
